วันจันทร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

รัก หรือ ใคร่

   "ดุ๊กดิ๊ก" เสียงในไลน์ดังขึ้นราวตอนบ่ายสาม หลังจากฉันนั่งพักในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย เพื่อรอเรียนอีกวิชาในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า ปกติฉันจะปิดเครื่องไว้ เพื่อไม่ให้เสียสมาธิขณะเรียน แล้วเปิดตอนพักซึ่งมันข้อความมากมายวิ่งเข้ามาไม่ต่ำกว่า 20-30 ข้อความ ทั้งจากเพื่อนผู้ชาย ทอม ดี้ และคนที่ฉันรัก "พี่อร" และที่มีเพิ่มเข้ามาใหม่ในเช้าวันเสาร์นี้คือ "พี่วิว" ซึ่งนับตั้งแต่ได้เจอกันในผับวันนั้น พี่วิวส่งข้อความมาคุยเป็นประจำทุกวัน หรือบางทีก็โทรศัพท์มาคุยด้วยเป็นระยะๆ
         "สวัสดีจ้า คิดถึงคนสวยจัง เรียนเหนื่อยไหมคะ" ข้อความแรกของพี่วิวดังเข้ามา
   "เรื่อยๆค่ะ พี่วิวทานอะไรหรือยังคะ"
          "ยังเลยว่าจะชวนนาไปหาไรกินอยู่"
   ฉันรู้สึกได้เลยว่า การพูดคุยกับเลส ต่างไปจากเพื่อนผู้หญิงด้วยกันชัดเจน มันมีความอ่อนหวานละมุน มันเหมือนมีอะไรความรู้สึกบางอย่างสอดแทรกมากับคำพูดเหล่านั้นด้วย ซึ่งฉันเองอธิบายไม่ได้เหมือนกันว่ามันคืออะไร นาก็ได้คุยกับพี่อรบ่อยๆว่า พี่วิวเค้าจีบนาหรือเปล่า เพราะไลน์มาถามสารทุกขส์สุขดิบทุกวันจนเหมือน ชวนไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย แต่ความรู้สึกขณะนั่งกินข้าวด้วยกัน ไปดูหนังกัน เดินจับมือกัน ก็ไม่เหมือนตอนไปไหนมาไหนกับพี่อรอู่ดี
   "แล้วพี่วิวจะไปทำงานทันหรอ" ฉันตอบไป
          "ทันอยู่แล้ว ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพี่ไปหาตอนห้าโมงเย็นนะ"
  "ค่ะพี่" ฉันไลน์ตอบไปเหมือนทุกครั้ง ถามว่าฉันชอบพี่วิวไหม ก็ชอบ เพราะพี่เค้าสวยมาก สวยระดับเดินไปไหนมีแต่คนเหลียวมองไม่ว่าหญิงหรือชาย อัธยาศัยการพูดคุยก็ดีด้วย สุภาพต่อฉันเสมอ นอกเหนือจากการจับมือเดินกัน พี่วิวยังไม่เคยทำอะไรมากกว่านั้น ตลอดเวลาที่ไปไหนมาไหนด้วยกันสองเดือน จนพี่อรเข้าใจว่าฉันกับพี่วิวเป็นแฟนกันไปเรียบร้อยแล้ว
      พี่วิวขับรถมาหาในชุดลำลองธรรมดา เสื้อยืดสีดำ กับกางเกงยีนส์ขาสั้น ทุกย่างก้าวทำให้ผู้คนเหลียวหลังห้ันมามองเช่นเคย นอกเหนือจากความสวยเด่น ดูมีเสน่ห์ของหน้าตาแล้ว รูปร่างอย่างกับนางแบบ หุ่นเป๊ะเว่อร์ เราไปนั่งกินร้านอาหารยังห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งไม่ไกลจากหอพักมากนัก
      "วันนี้เรียนเหนื่อยไหม นา" พี่วิวทักขณะนั่งขับรถไปด้วย สายตาชำเลืองพร้อมส่งยิ้มให้ฉันเล็กน้อย รอยยิ้มมุมปากที่เรียวยาว ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องชอบด้วยกันทั้งนั้น
             "นิดหน่อยค่ะพี่วิว แดดมันร้อน ต้องเดินหลายตึกเมื่อยเลยวันนี้"
      "สู้ๆนะจ๊ะ อีกไม่ถึงสองเดือนก็จบปีสองแล้วนิ"
             "ก็พยายามอยู่คะ คิดอยู่ว่าถ้าขึ้นปีสามหรือปีสี่ ตัววิชาเรียนน้อยลง อาจไปขอให้พี่ีอรช่วยทำงานด้วย นาจะได้ช่วยแบ่งภาระทีบ้านได้"
        "ก็ดีนะ แต่ระวังอย่าให้กระทบการเรียนล่ะ มาเป็นแดนเซอร์ก็เงินดีเหมือนกัน" พี่วิวพูดไปพร้อมกับเอื้อมมากุมมือฉันที่วางอยู่บนหน้าขาของฉันเหมือนให้กำลังใจ
        "แล้วพี่ว่ิวเหนื่อยไหม หนูเห็นพี่อรกลับถึงห้องทีไร เหมือนหมดเรี่ยวหมดแรง บางทีนอนหลับชนิดไม่ทันอาบน้ำก็บ่อย"
               "เรื่องปกติ เราเต้นทั้งคืน ยืนทั้งคืน ต้องกินเหล้าด้วย แต่พอเงินออกก็หายเหนื่อยแล้วล่ะจ้ะคนสวย" พี่วิวโปรยยิ้มให้จนทำให้ฉันไม่กล้ามองตรงๆ เพราะรอยยิ้มพี่เขาน่ารักมาก
         "สนใจก็มาทำสิ มีพี่วิวกับอรดูแล นาหายห่วงน่า"
          เรานั่งทานข้าวกันคุยกันอะไรไปเรื่อยจิปาถะ ช่วงนี้ฉันค่อนข้างคุยกับพี่วิวบ่อยมาก บ่อยกว่าพี่อรด้วยซ้ำ พี่อรเองก็ยังปฏิบัติดูแลดีกับนาเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ทั้งที่นาเคยกล้วว่า เมื่อเผยใจไปแล้ว พี่อรอาจห่างเหินไป แต่กลับเป็นนาเองที่คุยกับพี่อรน้อยลง และออกไปไหนมาไหนกับพี่วิวบ่อยขึ้น อย่างไรก็ตาม นาไม่ค่อยได้ผับร้านที่พี่อรพี่วิวทำบ่อยนัก ส่วนใหญ่ถ้าจะสังสรรค์หาอะไรกินกันก็มักจะนั่งกินกับกลุ่มเพื่อนๆพี่อร ซึ่งระยะหลังพี่วิวก็มานั่งกินด้วยบ่อยๆ พี่วิวเองพยายามชวนฉันไปเที่ยวสองคนเหมือนกันในวันหยุดของพี่วิว แต่ฉันยังไม่ว่างสักที เพราะหากไปเที่ยวก็ต้องกลับดึก และช่วงนี้ฉันมีโปรแกรมเรียนตอนเช้าอยู่หลายวันเหมือนกัน
                 "พรุ่งนี้นาเรียนกี่โมงจ้ะ พอดีวันนี้วิวหยุด เพราะสลับวันหยุดกับเพื่อน ไม่ม่ีอะไรทำ จะชวนนาไปนั่งฟังเพลงหน่อย" พี่วิว
         "เรียนสิบเอ็ดโมงค่ะ"
                 "ไปเที่ยวกับพี่ไหม เดี่ยวมาส่ง" พี่วิวเอ่ยปากพยักหน้าชวน พร้อมส่งสายตาหวานเยิ้มจนฉันยากปฏิเสธได้ลง"
          "ได้สิคะพี่ แต่เดี๋ยวขอนางีบแป๊บนะ พี่วิวขึ้นไปนั่งพักที่หอก็ได้ พี่อรคงไม่ว่าอะไรหรอก"
                 "ดีเหมือนกัน พี่จะได้คุยกับอรด้วย ตอนทำงานได้ยินแต่เสียงเพลง แทบไม่ได้คุยกันหรอก"
      ภายหลังรับประทานอาหารเสร็จ ฉันพาพี่วิวขึ้นไปยังห้อพัก ซึ่งทันทีเมื่อพี่อรมาเปิดประตูให้ก็แปลกใจ พร้อมกับยิ้มรับเพื่อนสนิท
       "อ้าว อร มาได้ไงเนี่ย" พี่อรเอ่ยขึ้น
                  "พอดีมาชวนนากินข้าว แล้ววันนี้ฉันหยุด เลยกะว่าจะพาน้องนาคนสวยไปท่องราตรสักหน่อย พี่สาวคนสวยจะอนุญาตไหมเนี่ย" พี่วิวคุยกับเพื่อนสาวอย่างสนิทสนิทและเป็นกันเองเช่นเคย
        "แหม ก็แฟนเธอ ใครจะไปห้ามได้ล่ะจ้ะ" พี่อร ทำสายตาเล่นหูเล่นตา  แต่ทำให้ฉันอึ้งไปนิดหน่อย การที่ฉันมีแนวโน้มเปนเลสเข้าไปทุกขณะ จึงไม่แปลกที่พี่อรมองว่าสนิทกับวิวได้เร็ว ฉันเองยอมรับว่ายังรักพี่อรเหมือนเดิม เพียงแต่รู้ดีว่า บางอย่างอาจเป็นไปไม่ได้ เพราะพี่อรก็ยังคบกับพี่เมสร์แฟนชายของตนอยู่ และพี่อรก็บอกเองว่าไม่ใช่เลสด้วย
       ฉันเองไปไหนมาไหนกับพี่วิวบ่อยช่วงนี้ก็จริง แต่ยังไม่ได้มีอะไรกับจนถึงขึ้นเซ็กซ์ แค่จัับมือ หอมกัน แม้กระทั่งจูบยังไม่เคยเลย แล้วแบบนี้จะเรียกว่าแฟนหรือเปล่านะ
        "แหม นายอมเป็นแฟนฉันก็ดีสิ รักตายเลย" ทั้งสองคนยังเหย้าแย่แซวเรื่องฉันต่อไป ซึ่งก็ทำให้ฉันเขินพูดไม่ออกเหมือนกัน ได้แต่เอาแก้วน้ำหยิบมาให้พี่วิวดื่ม ก่อนขอตัวไปเปลี่ียนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองอยู่บ้านก่อน
         ฉันเองได้พี่วิวพูดแซวกับพี่อรเหมือนกัน "น้องนาสวยขนาดนี้ แกไม่เอาฉันเอานะ อร"
         "บ้า ฉันมีแฟนชายอยู่แล้วนะยะ แกดูแลนาดีๆก็แล้วกัน" พี่อรฝากฝังนาให้เพืื่อนเสร็จสรรพ
         "รู้แล้วน่า ไม่ทิ้งหรอก นาอะสิ จะยอมเป็นแฟนฉันหรือเปล่าก็ไม่รู้"
         "กรูถามจริงๆนะ ได้กันยัง" พี่อรแอบกระซิบเบาๆ แต่ฉันเชื่อว่าได้ยินไม่ผิด
         "ยัง เล่นถามงี้ฉันไปไม่เป็นนะยะ" พี่่ิวิวแบบเขินเล็กน้อย พร้อมกับทำมือจุ๊ๆที่ปากกลัวนาได้ยิน
         ฉันออกมาจากห้องน้ำทำเป็นไม่ได้ยินอะไร "พี่อรวันนี้ว่างไหม พอดีพี่วิวชวนไปเที่ยวผับกัน" ฉันชวนเป็นมารยาทเพราะพี่อรติดงานไปไม่ได้อยู่แล้ว
         "พี่ทำงานน่ะ ไปเที่ยวกันให้สนุกเถอะจ้า"
         "วันนี้หนูเพลียมากเลยพี่อร หนูขอเสียมารยาท งีบหลับแป๊บนะ" ฉันเอนตัวลงบนที่นอนโซฟาในห้อง ขณะที่พี่ทั้งสองคนสนทนากันเรื่องราวต่างๆจนฉันหลับไปเมื่อไหร่ไม่ทราบ ตื่นมาอีกทีเห็นพี่วิวแต่งตัวพร้อมสรรพแล้ว
         "ตื่นแล้วหรือนา"
                "ชุดพี่วิวสวยจัง"
          "พี่มีอยู่หลังรถเยอะน่ะ ไว้เปลี่ยน"
           ชุดเที่ยวพี่วิวเน้นเซ็กซี่ตลอด วันนี้เป็นเสื้อเป็นแบบไม่มีแขนและร่องอกลึกเล็กน้อย ขณะที่กระโปรงเป็นสีดำ สั้นประมาณกลางต้นขา แต่ยังสไตล์แนบเนื้อจนเห็นขอบกางเกงชั้นในชัดเจน ส่วนฉันเองไม่ได้แต่งเซ็กซี่มาก แค่ชุดแส็กสีดำรัดรูปให้พองาม กระโปรงไม่ได้สั้นมากเท่าพี่วิว
        ขาลงจากหอพี่วิวเป็นคนเดินจูงนาลงมา ก่อนเปิดประตูรถด้านคนนั่งให้ แล้วพี่วิวก็เข้าไปประจำหลังพวงมาลัย ท่วงท่าขณะพี่วิวก้าวขาซ้ายขึ้นรถ กระโปรงร่นขึนมาจนเห็นต้นขาขวาลึกเข้าไป พอนั่งเสร็จพี่วิวดึงกระโปรงลงเล็กน้อย เพราะมันร่นขึ้นมาจนเกือบเห็นไส้พุงอะไรต่อมิอะไรหมดแล้ว ฉันเผลอมองอยู่นา จนพี่วิวหันมายิ้มให้
        "วันนี้อยากฟังเพลงแนวไหน พี่จะได้พาไปถูกร้าน"
                "แล้วแต่พี่เลยค่ะ"
        พี่วิวพาไปร้านเพลงฝรั่งเศส มีเล่นกีตาร์คลาสสิคแล้วนักร้องร้องเพลงสากลเก่าๆ ได้บรรยากาศดีมาก คือถ้าเป็นคู่รักมาล่ะก็ใช่เลย ร้านค่อนข้างใหญ่จัดเป็นโซน แล้วมีน้ำล้อมรอบที่เรานั่งอีกด้วย เราทานอาหารกันไปโดยที่ฉันไม่กล้าสบตาพี่วิวมากนัก
       "จริงๆ นาก็สวยมากนะ หุ่นก็ดี นาบอกไม่มีแฟนมาก่อนพี่ไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ" พี่วิวทำสายตาเจ้าเล่ห์และยิ้มไปด้วย ระหว่างเรานั่งที่ร้าน
             "หนูไม่สวยเท่าพี่วิวหรอก เดินไปไหนมาไหนมีแต่คนมองพี่วิวมากกว่าตลอดอ่ะพี่" ฉันชมตามความเป็นจริง
      "แหม ชมงี้ก็เขิลหมดสิ แล้วนี่เดินไปไหนมาไหนกับพี่รู้สึกไงบ้าง"
            "ก็โอนะคะ ใครก็อยากเดินกับคนสวยอยู่แล้ว"
      "ไม่กลัวคนมองว่าเราเป็นคู่เลสกันหรอ"
            "กลัวทำไมล่ะพี่ เดี่ยวนี้หนูก็เห็นเฟซบุค ไลน์ อะไรก็เปิดตัวกันตั้งเยอะ อีกอย่างเราก็แค่เดินจูงมือกัน ไม่เห็นน่าเกลียดอะไรนะหนูว่า เพื่อนๆผู้หญิงเราก็จับมือกันเดินอะไรกันปกติอยู่แล้ว"
       "ก็จริง แล้วถ้าพี่ขอนาเป็นแฟนล่ะ นาจะว่าอย่างไรบ้าง"
             ฉันอึ้งไปสองวินาทีและรู้สึกเขินอย่างบอกไม่ถูกที่มีคนสวยขนาดนี้มาบอก "โหย เดีย่วสาวๆของพี่ว่ิวตบหนูเอา" ฉันพูดแก้เขินไปพลางๆ
        "มีที่ไหนกัน พี่โสดสนิท ไม่เชื่อถามอรดูได้"
              "หนูว่า เราเดินจับมือกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันสนิทขนาดนี้ คนคงมองเราเป็นแฟนกันนานแล้วล่ะ"
       "แต่การเป็นแฟนกัน มันมีอะไรมากกว่านั้นนะ" พี่วิวชักพูดให้ฉันงง
              "มีอะไรคืออะไรหรอพี่" ฉันถามแบบความไม่รู้ประสีประสา
       "อีกหน่อยนาก็รู้เองแหละ" แล้วพี่วิวก็หยิบแก้วเบียร์มาชนกับฉัน เรากินข้าวเสร็จก็จิบเบียร์กันอีกหลายแก้วจนฉันเริ่มมึนตึงๆแล้วเหมือนกัน
       "นาอยากไปแดนซ์ไหม เดี๋ยวพี่พาไปต่อ" พีิ่ิวิวชวน หลังจากเรานั่งอยู่ในร้านอาหารแห่งนี้เกือบสองชั่วโมง
       "ได้เลยพี่วิว" ฉันเริ่มรู้สึกสนุกและอยากไปเต้นต่อตามประสาวัยรุ่น แต่ก็ไม่ลืมส่งข้อความไลน์บอกพี่อรด้วย
        "พี่อร เดี๋ยวพี่วิวพาไปผับ แล้วจะมาส่งนา พี่อรไม่ต้องห่วงนะคะ" นาไลน์ไป
                 "โอเคจ้า นาไปกับวิว พี่ไม่ห่วงหรอก ไว้ใจได้ แล้วเจอกันคืนนี้นะ เบบี๋"
        "จุ๊บๆ จ้า รักพี่อรจ้ะ" นาตอบกลับไป และพี่อรส่งรูปหัวใจดวงใหญ่กลับมา
        พี่วิวขับไปยา่นอาร์ซีเอ ซึ่งเต็มไปด้วยผับมากมาย ก่อนพาเข้าร้านหรูแห่งหนึ่ง ซึ่งทันทีเมื่อเข้าไปในร้าน บรรยากาศเหมาะแก่การพาแฟนหรือคู่รักกันมาเที่ยวอย่างยิ่ง แสงไฟสลัวๆ ออกจะมืดด้วยซ้ำ มีเทียนตั้งอยู่บนโต๊ะ คงมองเห็นหน้ากันชัดๆเฉพาะคนที่นั่งโต๊ะเดียวกันเท่านั้น
      "ขอมิกเซอร์โซดาอย่างเดียวนะคะ" พี่อรบอกเด็กเสริฟ พร้อมนำบัตรเหล้าให้เหมือนกับพี่เขาเคยมาที่นี่แล้ว
           "พี่วิวมาที่นี่บ่อยหรือคะ" ฉันถามด้วยความสงสัย
      "จ้ะ พี่มากับเพื่อนๆบ่อย มีบัตรเหล้าเพียบ" นาไม่ต้องห่วงนะ กินให้เต็มที่สนุกให้เต็มที่นะจ๊ะ"
      พี่ิวิวนั่งตรงข้ามกับฉัน และชนแก้วกับฉันตลอด ซึ่งเราคุยไม่ค่อยได้ยินกันนัก เพราะเสียงดนตรีดัง ทำให้ต้องโน้มตัวมาหากันใกล้ๆ บ่อยๆ เวลาคุยฉันไม่ค่อยกล้าสบตามองพี่วิวตรงๆนัก เพราะตาหวานเสียเหลือเกิน
     "ทำไมไม่ค่อยมองหน้าพี่อ่ะนา พี่ไม่สวยหรอ"
            "สวยเกินนะสิพี่วิว สวยจนหนูเขินไม่กล้ามอง"
     "งั้นพี่ขอไปนั่งข้างๆนานะ จะได้คุยได้ยินกันถนัดๆ" พี่วิวไม่รอช้าหยิบแก้วมา แต่ไม่ได้หยิบเก้าอี้มาด้วย เพราะเก้าอี้ดูท่าจะหนักพอควร คงต้องรอให้พนักงานเสิร์ฟมาช่วย พี่วิวเลยมายืนข้างๆฉัน เหมือนตอนที่เราไปดูพี่อรเต้นในผับ
    ความที่เราใส่กระโปรงสั้นทั้งคู่ กระโปรงฉันร่นขึ้นมาจนถึงเกือบโคนขา จนต้องนั่งไขว้ขาไว้กันโป๊ ขณะที่พี่วิวยืนเอาขาข้างขวามาพิงตรงแถวต้นขาฉัน จนเนื้อของเราถูกกัน ฉันรู้สึกแปลกๆมีไออุ่นจากตัวพี่วิว ผิวพี่วิวเนียนมาก เวลาเราคุยหรือขยับตัวกัน ขาของเราสีกันไปด้วย ทำให้บางทีฉันขนลุกและรุ้สึกหวิวแบบแปลกๆ
    "นาชอบมาเที่ยวแดนซ์แบบนี้หรือเปล่า" พี่วิวกระซิบที่ข้างหูจนจมูกแทบจะแนบติดแถ้มฉัน ผมยาวเป็นลอนของพี่วิวพิงข้างกับผมของฉัน บางทีผมของพี่วิวเลื้อยไปมาแถวต้นคอฉันจนรู้สึกจั๊กจี้ปนขนลุกซู่ไปเหมือนกัน
           "ก็มากับเพื่อนๆบ้าง แต่ไม่บ่อยหรอกคะพี่" ฉันตอบไปพร้อมกับกลิ่นน้ำหอมพี่วิวแตะปลายจมูกไปด้วย เราสลับกันนั่งเก้าอี้ตัวเดียวกัน อีกคนยืนพิงขายืนคุยกันแบบนี้ตลอดเวลา บางท่จังหวะพี่วิวก็ยืนแล้วโอบเอวฉันไปด้วย ฉันเองตึงๆมาจากร้านอาหารแล้ว พอกินเหล้าเข้าไปสัก 2-3 ก็เริ่มครึมอกครึ้มใจได้ี จังหวะเกมมันๆก็โยกตัวบนเก้าอี้ไปด้วย พี่วิวเองก็ยืนเต้นนิ่มๆไปพร้อมกัน แต่มีสลับมายืนด้านหลังฉันแล้วเอาสองมือโอบเอวฉันเต้นไปด้วย บางทีก็กอดเอวฉันไปด้วย เวลานั้นฉันรู้สึกสนุก จนลืมความคิดถึงพี่อรไปชั่วขณะ
     ในความเป็นจริง ถ้าพี่อรเป็นเลส ฉันคงเป็นแฟนพี่อรไปนานแล้ว ทุกวันนี้ฉันยังไม่รู้จิตใจพี่อรเหมือนกัน บางทีเหมือนชอบฉันเล็กๆ แต่ความที่พี่เขามีแฟนชายไปด้วย จึงทำให้ฉันไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองมากนัก การคบพี่วิว อาจชดเชยความคิดถึงและความรักที่มีต่อพี่อรได้บ้าง และทำให้ฉันรู้ใจตัวเองมากขึ้นว่าเปนเลสเต็มร้อยเปอร์เซนต์แล้วหรือไม่
     เวลาล่วงเลยไปเกือบเที่ยงคืน ฉันกับพี่อรดูตึงได้ที่ พี่วิวเลยดึงฉันลุกมาเต้นข้างโต๊ะด้วยกัน ลีลาพี่วิวเรียบง่าย การสบัดเอวและขาอย่างช้าๆ ทำให้ผมปลิวไสวไปด้วย แม้ว่าไม่ออกแนวแดนเซอร์เหมือนในผับที่ทำงาน แต่ก็ดูเซ็กซี่และสวยงามมาก ส่วนฉันเองขยับขาเบาๆซ้า ไม่ได้มีลาลีอะไรมากนัก สายตาจดจ่อกับการตัวพี่วิวมากกว่า
    พอเสียงเพลงแดนซ์สิ้นสุดลง เปลี่ยนเป็นจังหวะช้าๆ พี่วิวก็คว้านาเข้าไปกอดคอ พร้อมกระซิบข้างหูเช่นเคย
   "นาเต้นสวยจังวันนี้" พี่วิวชมทั้งที่ฉันเองก็ไม่ได้ออกสเต็ปอะไรมากมาย "ขอหอมให้รางวัลหน่อยนะ"
  "จุ๊บๆ " พี่วิวเอาจมูกมาดุนแก้มฉันก่อน ขยับริมฝีปากมาหอมฉันสองฟอดใหญ่ ทำเอาฉันถึงกับขนลุกเกือบทั้งตัวไปชั่วขณะ ฉันเองไม่ได้ปัดป้องหรือว่าอะไร เพราะในใจก็ชอบพี่วิวเหมือนกัน แม้ว่ามันมิใช่ความรักแบบที่ฉันรักพี่อรก็ตาม
         "พี่ขอเป็นแฟนนาได้ไหม" พี่อรคว้านามากอดทั้งตัว และก้มลงกระซิบทีข้างหู จนแก้มเราชิดกัน ขณะเต้นสโลว์ซบไปด้วย ทำให้ฉันตกใจและกลัวคนมองมากๆ ซึ่งฉันเหลือบตาไปมองโต๊ะอื่นๆ ก็มีคนมองเรานิดหน่อย แต่สักพักก็หลบสายตาไป ไม่ได้จ้องมองอะไรมาก บางทีการที่ผู้หญิงยืนเต้นกอดกัน อาจเป็นเรื่องปกติไปแล้วในสังคมนักเที่ยวผับ หรือดิสโก้เธคแบบนี้
     คำขอของพี่วิว ทำให้ฉันหลับตาพริ้มตอนพี่มากระซิบที่ข้างหู ความมึนแอลกอฮอลล์และความอบอุ่นที่พี่วิวมอบให้ทำให้ฉันรู้สึกเคลิ้มและกอดเอวพี่วิวกลับอย่างแนบแน่น แม้ว่ามิได้เอ่ยปากตอบออกไปว่ายอมเป็นแฟนหรือไม่ แต่อ้อมกอดของฉันที่ตอบกลับไปคงแทนคำพูดได้เป็นอย่างดี
     ฉันไม่รู้เหมือนกันว่า อ้อมกอดที่ฉันมีให้พี่วิว เป็นความรักหรือเพียงสเน่หา แต่ในชั่วโมงนี้ ณ วินาทีนาทีนี ฉันอยากมีใครสักคนที่รักฉันแบบคนรัก บางทีอาจทำให้ความรักที่ฉันมีต่อพี่อรลดน้อยลงได้บ้าง หรือบางครั้งอาจทำให้พี่อรหันมาสนใจรักฉันในแบบอื่นมากกว่าพี่น้องบ้าง
     เรากลับมานั่งที่โต๊ะอีกครั้ง เช่นเคยที่พี่วิวให้ฉันนั่งบนเก้าอี้ โดยมีพี่วิวยืนแนบข้าง นับตั้งแต่เรากอดตอนเต้นกัน พี่วิวก็โอบเอวฉันไปด้วยตลอด และหอมฉันบ่อยมากจนฉันเริ่มชินกับปลายจมูกของพี่เขาที่กระทบแกบฉันไปเสียแล้ว มิได้รู้สึกเคอะเขินอีก
     "พี่สัญญาพี่จะไม่มีใครอื่นนอกจากนานะ" พี่วิวทำสายตาหวานดุจน้ำเชื่อมไปด้วย และฉันหันไปสบตาพอดี เป็นครั้งแรกที่ฉันกล้าสบตากับพี่วิวคนสวยแบบตรงๆ
    ในมุมมืดนั้นพี่วิวเลื่อนจากหอมแก้มาหอมที่ขอบริมฝีปาก ฉันไม่กล้าเอียงหน้าหนี เพราะริมฝีปากของพี่วิวนุ่มนวลดุจแพรไหม ฉันรู้สึกถึงการจุมพิตของผู้หญิงด้วยกันเป็นอะไรที่นุ่มนวล เย้ายวลใจน่าอบอุ่นและถวิลหา เอียงหน้าไปหาพี่่วิวช้าๆ ทำให้ริมฝีปากของฉันตรงกับปากของพี่วิวพอดี ท่ามกลางความฝืดมีแสงสลัวเพียงน้อยนิด พี่วิวแนบริมฝีปากลงอย่างช้าๆและแผ่วเบา หนแรกพี่วิวแค่แตะเบาๆแล้วฉากออกไป ฉันไม่ได้จูบตอบ ได้แต่มองตราปรือ ทำไมพี่วิวสวยเหลือเกิน
     วินาทีต่อจากนั้นเราคุยกันน้อยลง กอดแนบแน่นกันมากขึ้น พี่วิวหยิบเหล้าขึันมาจิบอีกครั้งแล้วก้มลงเอาจมูกมาแตะที่ปากฉัน ก่อนเลื่อนขึ้นมาใช้ริมฝีปากแต่กัน หนนี้พี่วิวขบริมฝีปากใส่ฉัน กลิ่นเหล้าที่ติดมาด้วย ทำให้ฉันรู้สึกว่าพี่เขาเซ็กซี่เป็นพิเศษ น่าค้นหา ฉันเริ่มจูบตอบเล็กน้อย เรื่องการจูบคงไม่ต้องให้มีใครสอน ธรรมชาติสอนให้เราทำเป็นอยู่แล้วเมื่อถึงเวลา พี่วิวเอียงหน้าเล็กน้อยเพื่อเปลี่ยนมุมปาก นั่นทำให้ฉันถึงกับตาลุกโต เพราะปากของฉันกับพี่วิวประกบกันแนบแน่น กลิ่นไอแห่งความปรารถนาอบอวลอยู่ในความรู้สึกของฉันมากมายเหลือเกิน จูบที่สองของฉันได้มาจากผู้หญิงที่สวยที่สุด และทำให้ฉันรู้จักรสชาติของคำว่าเลสมากขึ้น....
   "คืนนี้ไปกินเหล้าต่อห้องพี่ไหม เดี่ยวพรุ่งพี้มาส่ง" พี่วิวชวนฉันไปเที่ยวห้อง ในวินาทีนั้น ความไม่ประสีประสาของฉัน ยังไม่รู้จุดประสงค์แท้จริงของพี่เขานัก
        "เดี๋ยวพี่ีอรจะว่าหนูนะสิพี่" ฉันทำเสียงอ่อยๆ แต่ในใจหนึ่งก็อยากลองไปเหมือนกัน แต่ฉันแทบไม่เคยไปนอนห้องเพื่อนเลย หากมิใช่ช่วงติวหนังสือ หรือทำรายงานเป็นกลุ่ม
   "พี่โทร.ไปขอให้ก็ได้ อรคงไม่ว่าหรอก"
          "เกรงใจพี่วิว เดี่ยวหนูลองไลน์บอกพี่อรก่อนนะคะ" ฉันเริ่มกดส่งข้อความไปหาพี่สาวรูมเมทสุดรัก
    "พี่อรคะ คืนนี้หนูขออนุญาตไปเที่ยวห้องพี่วิวนะคะ พรุ่งนี้พี่ิวิวจะส่งมาส่งที่หอค่ะ" ฉันทักไป แต่ก็ไร้เสียงตอบกลับ คาดว่าพี่คงทำงานอยู่ เนื่องจากเวลายังไม่ถึงตีหนึ่งดีนัก
    "ยังไงพี่อร พี่อรเลิกงาน ถึงบ้านแล้ว ไลน์บอกนาหน่อยนะคะ เป็นห่วงค่ะ" ฉันเขียนข้อความไปอีกครั้ง ก่อนที่พี่วิวสั่งเช็กบิล ชั่วโมงนี้ฉันรู้สึกสนุกปนๆกับโลกหมุน ฉันไม่เคยทำอะไรกับผู้หญิงด้วยกันแบบนี้มาก่อน ไม่เคยทำอะไรแบบเลสมาก่อน มันทำให้ฉันเคลิ้ม มีความสุขไปพร้อมๆกัน
   พี่วิวขับรถมาไม่ถึงครึ่งชม. ก็มาถึงคอนโดพี่แถวถนนสุขุมวิท ระหว่างทางพี่วิวชวนคุยกันตามปกติ มือหนึ่งขับรถอีกมือจับมือนาไปด้วยตลอดทาง เพราะรถพี่วิวเป็นแบบเกียร์ออโต้อยู่แล้ว เมื่อจอดรถเสร็จพี่วิวจูงมือฉันพาขึ้นคอนโดชั้น 7 โดยเมื่อเปิดห้องเข้าไปพบว่า คอนโดพี่วิวเป็นแบบห้องสูทมีทุกอย่างครบครัน โซฟานวมขนาดใหญ่ตรงห้องนั่งเล่นที่ทีวีจอแบนขนาดยักษ์ราวกับโรงหนังส่วนตัว ห้องนอนมีสองห้อง ตกแต่งอย่างสวยงามซึ่งราคาน่าจะแพงพอดู
   "นั่งก่อนนะ เดี๋ยวพี่เอา เหล้ามาให้ เอาอะไรดี แบล็คหรือชีวาส" พี่วิวถาม ขณะที่ฉันรู้สึกมึนไปหมดและนั่งแทบหมดแรงบนโซฟาสีเนื้อนั้น พี่วิวเดินไปเปิดเพลงสากลเบาๆ ก่อนปรับไปให้สลัวลงเล็กน้อย บรรยากาศเหมือนกับกึ่งผับก็ไม่ปาน
          "อะไรก็ได้ค่ะพี่" ฉันตอบ สักพักพี่วิวนำชีวาสขวดใหญ่มาวางบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟา แล้วรินน้ำแข้งกับโซดาบริการให้เสร็จสรรพ ประดุจบาร์เทนเดอร์มืออาชีพ
     "วันนี้พี่วิวมีความสุขจัง ไม่ได้เที่ยวแบบนี้มานานแล้ว นาเป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ" พี่วิวนั่งติดกับฉัน กระโปรงที่สั้นเต่ออยู่แล้ว รุ่นขึ้นไปจนถึงต้นขาจนพี่วิวต้องนั่งไขว้ขากันโป๊ ส่วนฉันเองนั่งแบบแทบจะนอนพิงโซฟาอยู่แล้ว ก่อนที่พี่วิวเอาแขนโน้มไหล่ฉันไปนอนบนไหล่ของเธอ
         "สนุกดีพี่ ใครจะไม่มีความสุขล่ะ อยู่กับผู้หญิงสวยๆแบบพี่วิว" ฉันพูดไปแบบอัตโนมัติโดยไม่ต้องคิด
      "มาอยู่ห้องพี่ก็ได้นะ" พี่วิวเชิญชวน
            "ขอหนูเรียนจบก่อนก็แล้วกันพี่"
      "ปากนาสวยจัง เมื่อกี้อยู่ในผับมองไม่ถนัดเท่าไหร่" พี่วิวช้อนคางฉันขึ้นอีกครั้ง ตาที่ปรือของฉันยังคงเห็นพี่วิวที่ยังสวยใส ราวกับไม่ได้รับอิทธิพลจากแอลกอฮอลล์เลย
      พี่วิวพลิกตัวหันข้าง แล้วค่อยๆก้มหน้าช้าๆ ประทับริมฝีปากฉัน กลิ่นแอลกอฮอล์จากปากพี่วิว ทำให้ฉันอยากจุมพิตตอบโดยไม่ลังเล ก่อนที่พี่วิวเอียงหน้าเล็กน้อยเพื่อให้ปากของเราประบกันสนิท ฉันหลับตาพริ้มขณะพี่วิวไล้ริมฝีปากไปทั่วปากฉัน และลิ้นของพี่วิวทำงานไปด้วยจนฉันรู้สึกเคลิ้มเต็มที่ ไม่เคยรู้มาก่อนว่ารสชาติจูบของผู้หยิงด้วยกัน สร้างความเสียวซ่านได้เพียงนี้ ขนของฉันลุกชูชัน วิญญาณของฉันเหมือนพยายามล่องลอยไปที่ไหนสักแห่ง ความใคร่ของฉันเพิ่มพูนเป็นทวีคูน มันยิ่งกว่าดูฉากเลิฟซีนของเลสในหนังเรื่องใดๆ หัวใจฉันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะราวร้อยๆครั้งต่อนาที
     เราจูบกันอยู่นานแค่ไหนไม่ทราบ แล้วอยู่ดีๆพี่วิวเลื่อนปากลงมาทีี่ซอกคอฉัน ริมฝีปากอันแผ่วเบา ทีกระทบไรผมและต้อนคอ ทำให้ฉันอ่อนไปทั้งตัว พร้อมกันเอนตัวพิงพนักโซฟาเหมือนคนหมดแรง พี่วิวไวร์ซอกคอฉันอยู่นานก่อนเลื่อนลงมาตรงร่องอก ภาพที่ฉันไม่อยากเชื่อคือ มือซ้ายของพี่วิวเอื้อมมาจับหน้าอกฉันอย่างเบาๆ ค่อยๆไล้ไปมาอย่างถนุถนอม แม้ว่ามันยังมีเสื้อและบรากั้นอยู่ แต่มันทำให้ฉันรู้สึกหวิวไปทั้งตัว ฉันหงกหน้าขึ้นมาขึ้นมาพร้อมกับเอ่ยขึ้นเบาๆ
      "พี่ิวิวอย่าค่ะ นาไม่เคย"
         "ไม่เป็นไรนะ เดี่ยวพี่ทำให้" พี่วิวกระซิบทีข้างหูขณะที่มื้้อซ้ายของเธอยังคงเคล้นคลึงหน้าอกสองข้างของฉันต่อไป เหมือนไม่ได้ฟังเสียงของฉันเลย เกิดมาฉันไม่เคยถูกผู้หญิงด้วยกันจับนมแบบนี้ มันเป็นอะไรที่ตื่นเต้น และทำให้ฉันเกิดความต้องการในเซ็กซ์อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้ว่าในใจฉันอยากให้คนที่นั่งอยู่ข้างๆเป็นพี่อรที่ฉันรักใจจะขาดก็เถอะ
     ไม่นานนัก พี่วิวเลื่อนปากลงมายังร่องอกฉัน ริมฝีปากพี่วิวไล้ไปมาตรงเนินออกจนขนของฉันบริเวณหน้าอกลุกตั้งชันไปหมด ขณะที่มือซ้ายของพี่วิวค่อยๆเลือนจากหน้าอกลุบไปตามลำตัวลงไปถึงหน้าท้องจนถึงเนินสำคัญ พี่วิวลูบไปมาตรงนั้นอยู่นานจนฉันไม่รู้ตัวเลยว่ากระโปรงฉันร่นขึ้นมาจนชั้นในของฉันโผล่ออกมาอวดโฉมให้พี่วิวเห็นแล้ว
     ใช่ ฉันยอมรับในรสชาติการจูบ การสัมผัสของเลสเบี้ยน ฉันยอมรับว่าจิตใจฉันมีแนวโน้มมาทางรักเพศเดียวกันอย่างเต็มตัว แต่สิ่งที่ฉันยังกลัวคือการมีเซ็กซ์ถึงขั้นลึกซึ้งแบบที่ฉันเคยดูในวิดีโอ ซึ่งในภาษาเลสเรียกกันว่า "ฉิ่ง"
     พี่วิวคงค่อยๆร่นกระโปรงฉันขึ้นมาตอนกำลังลูบไล้ท้่องน้อยฉัน ในใจหนึ่งฉันรุ้สึกอายต่อการถูกรุกเร้า แต่อีกใจหนึ่งฉันกระหายต่อมัน ฉันได้แต่หลับตาพริ้มให้มือพี่วิวทำงานต่อไปบนหน้าท้องฉัน แล้วไม่นานนักเมื่อพี่วิวเห็นฉันเคลิ้มได้ที่ เธอได้เลื่อนมือเข้าไปใต้กระโปรง แล้วทำงานต่อบริเวณร่องลึกสำคัญ แม้ว่าเป็นการสัมผัสจากนอกชั้นใน ทว่ามันทำให้ฉันแทบหยุดหายใจ ฉันสูดอากาศเฮือกใหญ่ ไปตามจังหวะที่นิ้วเรียวยาวพี่วิวรุกเร้า
    เหมือนมีสะสารบางเอ้อล้นออกจากร่างกายฉัน จนรุ้สึกมือพี่วิวลื่นไถลไปบริเวณหน้าขาของฉัน พี่วิวค่อยๆเลื่อนปากจากหน้าอก ลงมายับตรงท้องน้อย โดยมีเป้าหมายที่ร่องลึก ทำให้ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมา จึงพงกหัวพร้อมกับลืมตาขึ้น
    "พี่วิวหนูขอได้ไม้ อย่าเพิ่งออรัลนะ หรือฉิ่งนะ หนูยังไม่พร้อมจริงๆ" ฉันคงประสีประสาเกินไปต่อความรู้สึกเซ็กซ์แบบเลสเบี้ยน ยังกล้าๆกลัวๆ และอีกใจหนึ่ง ความรู้สึกของพี่วิวต่อฉัน มันใช่ความรักหรือเปล่าก็ไม่รู้ มันมิใช่ความสนิทสนท ความผูกพันเหมือนตอนฉันใช้เวลาอยู่กับพี่ีอรตลอดเกือบสองปี เราเจอกันแค่วันละแค่ไม่กี่นาที ช่วงเวลาของเราหนักไปทางไปเที่ยวด้วยกันมากกว่าร่วมทุกข์และสุข
   พี่วิวหยุดชะงักการทำงานด้วยมือไป แล้วขึ้นมาพูดใบหูฉัน
      "นาไม่ต้องการหรอ" เสียงพี่วิวเย้ายวนใจมาก เพียงแต่ฉันยังไม่พร้อมถึงขั้นฉิ่งแบบเนื้อแบบเนื้อ ฉันอาจกลัวติดใจในรสชาติของมัน และถ้าฉันอยากมีเซ็กซ์จนถึงขั้นนั้น ฉันคงอยากมีอะไรกับคนที่ฉันรักแบบเนื้อแท้มากกว่า
      ฉันไม่ได้ตอบอะไรไป ได้แต่นิ่งเงียบและหันใบหน้าไปอีกทางเหมือนเชิงปฏิเสธ
       "ถ้างั้นพี่ขอแค่ภายนอกได้ไหม ถ้านายังไม่พร้อม" พี่วิวพยายามขอรุกเร้าต่อ
     "ภายนอก" ฉันคิดก่อนหันหน้ากลับมาแล้วจูบที่ปากพี่วิวเบาๆ
        คำว่าภายนอกของพี่วิว คงเป็นการล่วงล้ำอธิปไตยบนเนินสาว แบบไม่ต้องถอดเสื้อผ้ากระมัง ไม่ช้าปลายนิ้วพี่วิวเลื้อยลงไปทำงานยังจุดสำคัญแถวหน้าขาของฉันต่ออย่างถนุถนอม จนความสุขของฉันหลั่งออกมาไม่หยุด
      เราทั้่งสองคนยังคงใส่เสื้อผ้าชุดเที่ยวทั้งคู่ พี่วิวกระซิบต่อ "ไปกินเหล้าต่อในห้องนอนพี่วิวนะ"
      ฉันไม่ตอบอะไร แต่ยอมให้พี่วิวจูงมือและถือแก้วเหล้าเข้าในห้องนอนพี่วิวด้วย เมื่อเข้าไปถึงพี่วิวชวนฉันยืนจิบเหล้าอีกนิด ก่อนประกบปากฉันโดยที่ยังมีเหล้าเจือปนอยู่ริมฝีปาก พี่วิวใช้ลินเลียที่ริมฝีปากฉันแล้วบอกว่า "อร่อยมาก ปากนาหวานจัง" มันทำให้ฉันเคลิ้มขณะจูบเธอไปด้วย แล้วพี่วิวค่อยๆพยุงฉันลงไปนอนกับเตียงสีขาวที่มีผ้านวมหนานุ่มปูไว้ แสงไฟในห้องสีเหลืองนวลค่อยๆถูกหรี่ลงจนแค่พอมองเห็นหน้ากัน
  เรายืนจูบกันที่ขอบเตียงอยู่ครู่เดียว ก่อนที่พี่วิวค่อยๆเอนตัวฉันลงบนที่นอนอย่างนุ่มนวล พี่วิวจูบแล้วและใช้ปลายมือสอดเข้าใต้กระโปรงฉันเหมือนตอนอยู่บนโซฟา กระโปรงฉันเลิกขึ้นมาจนฉันรู้สึกหวิวๆที่ต้นขา ฉันไม่กล้าก้มไปมองสิ่งที่พี่วิวกำลังปฏิบัติกับตรงนั้นของฉัน รู้แต่ว่ามือของเธอกำลังสัมผัสบริเวณชั้นในของฉันขึ้นลงตลอดเวลา จนสารแห่งความสุขเอ้อล้นออกมาเป็นระยะๆ
  "พี่สัญญาทำแค่ภายนอกนะ นาไม่ต้องกลัว" พี่วิวพูดเบาๆจนฉันเกือบไม่ได้ยิน ระหว่างหอมซอกคอชั้นไปด้วย พี่วิวลุกขึ้นมาถอดเสื้อกับกระโปรงของเธอออก ทำให้ฉันเห็นเนินออกที่ล้นยกทรงสีดำออกมาอย่างชัดเจน ฉันมองเบื้องล่างก็เห็นท่อนล่างพี่เขาเหลือแต่กางเกงในที่มองเห็นเนินหญ้าได้เล็กน้อยภายในลูกไม้นั้น
  เธอลุกขึ้นไปนั่งคุกเข่าค่อมเอวฉัน เป็นอะไรที่ทำให้หัวใจฉันเต้นรุนแรงสุดขีด จากนั้นเธอค่อยๆขยับตัวลงมาทาบบนตัวฉัน โดยรู้สึกเหมือนชั้นในของเธอจะวางประกบบนชั้นในฉันพอดี นี่อาจเป็นสิ่งที่พี่วิวบอกขอทำภายนอกกระมัง พี่วิวค่อยๆขยับตัวขึ้นลงช้าๆ และสลับจูบฉันไปด้วย ฉันพยายามเงยหน้ามองบริเวณนั้น มันเหมือนร่างของเราทั้งสองคนประกบติดกันเป็นเนื้อเดียวจนมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ข้างล่างนั้น สายตาพี่วิวดูกระหาย พร้อมกับเสียงร้องครางไปด้วย
    "อา อะ อะ" พี่วิวขยับตัวขึ้นลง ทำให้ชั้นในของเราสีกัน เท่านั้นไม่พอ ฉันเหมือนเนินเนื้อใต้กางเกงในตัวจิ๋วของเราสัมผัสกันตลอดเวลาจนฉันรู้สึกเสียวซ่านอย่างมาก จนฉันเผลอครางตามพี่วิวไปด้วย
   "อูยส์" ฉันซีดมากเหมือนกินของเผ็ดจนทำให้เหมือนกระตุ้นพี่วิวให้มีอารมณ์ยิ่งขึ้นทวีคูณ พี่วิวจากที่คอยๆเอากางเกงในสีกัน ตรงเนื้อถุกันเบาๆ พี่วิวเริ่มกระแทกเนินเนื้อลงใส่บริเวณร่งลึกของฉันแรงขึ้นทุกขณะ
    "นาชอบรับหรอคะ ถ้าอยากรุกใส่พี่ก็ทำได้เลยนะ" เสียงพี่วิวเชื้อชวน
    "ทำเลยพี่หนูทำไม่เป็น"
        "แสดงว่านาคงเป็นเลสควีน ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่วิวให้นะ" พี่วิวกระแทกเนินเนื้อใส่แรงขึ้นๆ และครางไปด้วยอย่างไม่อายใคร
    "อาสส อาสส นาพี่จะไม่ไหวแล้ว" ฉันเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับเลสมาเหมือนกันว่า คนที่อยู่บนมักเสร็จง่ายกว่าคนที่อยู่ข้างล่าง ฉันเองมีความสุขเป็นทวีคูรเช่นกัน เพียงแต่มันไม่ยอมถึงจุดสักที ขณะที่พี่วิวดูเหมือนใกล้ถึงสวรรค์แล้ว
  พี่วิวเร่งฝีจักรสุดขีด ก่อนเด้งตัวออกมา และดึงกางเกงในของตนเองอย่างรวดเรียว ภาพที่ทำให้ฉันตาค้างคือพี่วิวสอดใส่นิ้วลงยังร่องสวรรค์แล้วเร่งเครื่องอย่างรวดเดียว ก่อนร้องครางดังชนิดทำให้อารมณ์ฉันพลุ่งพล่านไปด้วย
   "อาสสสสสงพี่ถึงแล้ว อาสส" พี่วิวล้มตัวนอนหงานอยู่ข้างๆนา เหมือนวิ่งร้อยเมตรมาอย่างเหน็ดเหนื่อย
   หน้าอกพี่วิวกระเพื่อมขี้นลงอย่างรวดเร็วก่อนค่อยๆเบาลงอย่างช้าๆ ส่วนฉันเองยังคงเสียวอยู่ไม่หาย เลยเผลอเอามือลูบน้องตัวเองต่อ พี่วิวเหลือบมาเห็นเลยยื่นมือเข้าช่วยเหลือ พี่วิวล้วงมือเข้าไปในชั้นในของนา แล้วช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว นิ้วกลางพี่วิวทำงานเหมือนผู้ชำนาญการ ควานหนจุดเสียวได้ในเวลาอันรวดเร็ว แล้วเร่งฝีพายจนฉันกระดกเอวรับเพราะทนความเสียวซ่านไม่ไหว
  "อ๊าสสส." ฉันหลับตาพร้อมกับสูดปาก "ซีส"
     "พี่วิวเร่งเหอะ หนุไม่ไหวแล้ว อาสส"
 พี่วิวเร่งฝีจักรแบบไม่ยั้งตรงจุดทรมาน พร้อมกับก้มลงดูดเนินนมฉันที่อยู่ล้นยกทรงออกมาด้วย สักพักเหมือนสารแห่งความสุขทลายเขื่อนพังลงมา ในเรือนร่างของฉันเหมือนไล่ตอดสิ่งแปลกปลอมที่มาโดนจุดสำคัญ ตุบ ตุบ ความรู้สึกเหมือนโล่งไปหมด ตัวเบาหวิว และอ่อนแรง มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก และไม่เคยเห็นมาก่อน มันต่างไปจากการช่วยตัวเองอย่างสิ้นเชิง..
   ฉันนอนหลับตาพริ้มอย่างหมดแรงและเปี่ยมสุข แล้วหลับไปโดยไม่ทันรู้ตัว เพราะความสุขและเสียวซ่านที่พี่วิวมอบให้...
....................................................
    วันรุ่งขึ้น ฉันตื่นมาพร้อมกับเห็นพี่วิวใส่ผ้าขนหนูอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว
    "นาใส่เสื้อผ้าลำลองของพี่ก่อนก็ได้นะคะ เดี๋ยวอาบน้ำเสร็จแล้วพี่ขับรถไปส่งที่หอนานะ" พี่วิวยิ้มทักแต่เช้า ขณะที่ฉันยังมึนงง ค่อยๆนึกสิ่งที่เกิดขึั้นเมื่อวานกับสิ่งที่ต้องทำในวันนี้
   สาบานได้ว่า เมื่อวานตอนเย็นก่อนไปเที่ยวกับพี่วิว เรื่องการมีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งกัน มิได้อยู่ในความคิดฉันเลยแต่แม้น้อยนิด รู้แต่เพียงว่า ความสนิทสนมกันทำให้ฉันพร้อมไปเที่ยวกับพี่วิวได้ก็แค่นั้น แล้วอีกอย่างพี่เขาเป็นเพื่อนสนิทกับพี่วิว พี่รูมเมทคนสวยของฉันด้วย
     ฉันขอยืมผ้าขนหนูกับหมวกคลุมอาบน้ำของพี่วิว เพื่อชำระล้างร่างกายให้สดชื่น เพราะวันนี้ฉันต้องมีเรียนตอนบ่ายด้วย ส่วนวิชาคาบเช้าตอนสิบเอ็ดโมงคงไม่ทัน เพราะฉันตื่นมาเกือบเก้าโมงแล้ว
    ระหว่างอาบน้ำ ฉันเริ่มทบทวนกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อวาน มันคือ "ความรัก" หรือเพียง "ความใคร่" ที่ชักนำฉันไปสู่จุดนั้น หรือว่าความรักทำให้เกิดความสัมพันธ์อยากลึกซึ่งกัน จริงอยู่ฉันรู้สึกมีความสุขและเคล้ิมสุดจะหาไม่ ในช่วงมีอะไรกัน ฉันตระหนักได้ว่าตนเองมีทั้งจิตใจและความพร้อมด้านความสัมพันธ์ในแบบเลส แต่ฉันยังอายต่อการมีอะไรขึ้นลึกซึ้งแบบเนื้อแบบเนื้อเหมือนเช่นเราเคยเห็นในวิดีโอคลิปทั้งหลาย มันยังเหมือนขาดอะไรไปอย่างระหว่างฉันกับพี่วิวที่นำไปสู่จุดนั้น
  ฉันยืมเสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ขาสั้นพี่วิวใส่ ภายหลังเราแต่งตัวกันเสร็จเรียบร้อย โดยพี่วิวอยู่ในชุดลำลองเสื้อยืดกระโปรงพีซ เราลงจากคอนโดมิเนียมเพื่อไปหาอะไรกินกันก่อน ซึ่งฉันไม่รู้จะพูดอะไรมากนัก เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์เมื่อคืน รู้สึกอายๆกับความสัมพันธ์แบบลึกซึ้งของเลสของตนเอง แล้วต่อไปนี้ฉันกับพี่วิวจะเป็นอย่างไรต่อไป แล้วความรักของฉันต่อพี่อรจะลดน้อยลงไปหรือเปล่า บางทีถ้าพี่อรเป็นเลส ฉันคงพร้อมให้ทุกสิ่งทุกอย่างแก่พี่อรยิ่งกว่าเมื่อคืนวานที่ให้กับพี่วิวโดยไม่ลังเลเลย
  ระหว่างนั่นรถพี่วิวกลับหอพัก พี่วิวเอื้อมมือมากุมมือฉันบ่อยครั้ง และยิ้มหวานเหมือนเดิมเหมือนตอนครั้งแรกๆที่รู้จักกัน ฉันชอบพี่เขาก็จริง แต่ตอบคำถามตัวเองไม่ได้อยู่ว่า ใช่่ความรักหรือเปล่า รู้แต่ว่าอยู่กับพี่เขาแล้วมีแต่ความสุข ได้ทำอะไรด้วยกัน กิน ดื่ม เที่ยว พูดคุยเรื่องราวสารพัดในภาษาเดียวกัน ยังไม่มีเรื่องทะเลาะหึงหวงใดๆ บางที การหึงหวง อาจทำให้ฉันรู้ใจตนเองก็ได้ว่า รักพี่วิวแบบเนื้อแท้หรือเปล่า
   "จุ๊บ" พี่วิวจูบฉันเบาๆ ฉันเองไม่ได้ยิ้มตอบเต็มปากนัก เพราะยังรู้สึกขวยเขิลกับการมีแฟนเลสอยู่บ้าง
          "เดี๋ยวบ่ายๆพี่โทร.หานะจ๊ะที่รัก" พี่วิวส่งยิ้มให้ก่อนขับรถกลับออกไป ส่วนฉันเองต้องกลับขึ้นไปบนหอเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมไปมหาวิทยาลัยต่อ
   พี่อรไม่อยู่เพราะคงไปเรียนแล้ว ทำให้ฉันไม่กระอักกระอ่วนใจมากนัก หากต้องเจอหน้ากันทันที และฉันเองไม่รู้จะเจอคำถามอะไรบ้างกับเรื่องเมื่อคืน แต่ฉันก็ไลน์บอกพี่อรไปว่า มาถึงหอเรียบร้อยแล้ว พี่เขาจะได้หายเป็นห่วง
    "นากลับถึงหอแล้วนะคะพี่อร พี่ว่ิวมาส่ง" ฉันทักตอบไป ก่อนย้อนไปดูข้อความที่พี่อรส่งมาให้เมื่อวาน
           "พี่โทร.หาตอนเช้าแล้ว นาไม่ตอบ เป็นห่วงนะ ถ้าถึงหอแล้วโทร.หรือไลน์กลับด้วย" เป็นข้อความทำให้ฉันรู้สึกดึใจมากๆ เพราะไม่ว่าฉันจะเป็นอย่างไร คบเพื่อนใหม่หรือมีแฟน พี่เขายังคงปฏิบัติดีต่อฉันดูแลห่วงใหญ่เสมอต้นเสมอปลายเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน
     "โอเค ดีแล้วที่ไปไหนมาไหนบอกพี่ ไม่งั้นพี่เป็นห่วงเราแย่" พี่อรตอบกลับอย่างรวดเร็ว
   "แล้วเรากับ วิว เป็นไงบ้าง" พี่อรเหมือนอยากรู้ความสัมพันธ์ระหว่างฉับกับเพื่อนพี่อร
      "ก็เรื่อยๆอ่ะพี่ ไม่มีไร"
    "ไงก็คบกับกันดีๆนะ มีไรก็ปรึกษาพี่ได้เสมอนะ" พี่อรยังมิวายอดเป็นห่วงฉัน
       "ได้คะพี่อร" ฉันตอบกลับพร้อมกับยิ้มไปด้วยความดีใจ เป็นการยิ้มคนเดียวที่อาจเหมือนคนบ้า แต่การได้คุยกับพี่อร ทุกครั้งมันเหมือนมีความผูกพันอะไรบางอย่างซ่อนตัวอยู่
    "พี่อรกลับมาหอป่าวคะ" ฉันอยากเจอพี่สาวคนสวยใจจะขาด การได้ไม่ได้เจอกันหนึ่งวัน ทำให้ฉันอยากคุยอยากได้อยู่ใกล้เสียเหลือเกิน
         "คงไปทำงานเลยจ้ะ นา" พี่อรตอบกลับ "นากินไรมายัง แล้วไปเรียนไหวหรือเปล่า"
     "กินแล้วพี่วิวเลี้ยงที่คอนโด เดี๋ยวพักสักแป๊บจะไปเรียนแล้วค่ะ"
          "งั้นตอนห้าโมงเย็น ไลน์คุยกันนะ เมื่อวานไม่ได้คุยกันเลย"
    "ค่ะพี่" บทสนทนาในไลน์จบลง ฉันเปลี่ยนชั้นใน เสื้อผ้า อาบน้ำล้างตัวอีกรอบ เพราะเหมือนจะงัวเงียเพลียอยู่นิดหน่อย ก่อนใส่ชุดศึกษาออกจากหอไปตอนเที่ยง เพื่อให้ทันวิชาเรียนตอนบ่ายโมง พอฉันเรียนเลิกห้าโมงเย็น นึกได้ว่า พี่วิวบอกจะโทร.มา แต่ลองดูข้อความมิสคอลล์แล้ว ก็ไม่เห็นเบอร์พี่วิวเข้ามาเลย ฉันเลยส่งข้อความหา
        "พี่วิวอยู่ไหมเอย คิดถึงนะ" ฉันทักไป แต่ก็ไร้ข้อความตอบ ฉันจึงกดเบอร์โทร.หา
    "พี่วิวเป็นไงบ้าง นาเองนะ ทานไรยัง" ฉันถามไถ่ประโยคแรกทันทีพี่วิวรับสาย ซึ่งฉันเองได้่ยินเสียงพี่เขาไม่ถนัดนักเหมือนเดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าอะไรสักอย่าง
       "เรียบร้อยแล้ว พี่อยู่ข้างนอกน่ะ" พี่วิวพูดด้วยเสียบเบาๆ จนฉันเกือบไม่ได้ยิน
    "หนูไม่ค่อยได้ยินเสียงอ่ะพี่ว่ิว เดี๋ยวค่อยไลน์คุยกันนา คิดถึงจ้า"
        "โอเคจ้ะ นา แล้วคุยกัน"
   สิ้นเสียงโทรศัพท์ฉันนัดพี่อรมาเจอกันแถวร้านอาหารในมหาวิทยาลัย เพื่อคุยกันนิดหน่อย พี่วิวยังพอมีเวลาหาอะไรทานบ้างก่อนไปทำงานที่ผับ ฉันดีใจมากเมื่อเห็นหน้าพี่อร ซึ่งพี่อรก็เข้ามากอดเอวและลูบหัวฉันอย่างเอ็นดู
       "แหม หายไปทั้งคืนเลยนะน้องฉัน ดีนะที่อยู่กับเพื่อนพี่ ไม่งั้นเป็นห่วงแย่" พี่อรทำจมูกย่นๆ ใส่ ราวกับพี่ไปเที่ยวแล้วเกือบลืมพี่อรเสียอย่างนั้น
               "นาไม่ลืมพี่หรอก รักขนาดนี้ลืมได้ไง"
      "แล้วนากับวิว ตกลงคบเป็นแฟนยัง" พี่ว่ิวชวนคุยเข้าประเด็น
              "ก็น่าจะ" ฉันตอบไปแบบซื่อๆ เพราะยังไม่รู้ใจตัวเองเหมือนกันว่ารักพี่วิวแบบแฟนหรือไม่ หรือแค่ชอบ เพราะความเส่ห์าและหลงใหลมากกว่า
     "หมายความไง น่าจะ..." พี่อรขมวดคิ้วหน่อยๆ
            "ไม่มีไรหรอก" ฉันอ้ำๆอึงๆบอก
     "เฮ้ย สมัยนี้แล้ว เลสคบกันเรื่องปกติน่า"
            "นาคงเป็นเลสจริงๆนั่นแหละ แต่รู้อายหน่อยๆเหมือนกันนะ เวลาคนมองเราว่าเป็นเลส เค้าจะมองนาว่าผิดปกติเหรือเปล่าพี่"
     "ยุคนี้มันเปลี่ยนไปแล้วนา คนเปิดตัวในเฟซ ไลน์ว่าเป็นเลสกันเยอะแยะ ทั้งคิง ควีน ไบ ร้อยแปด พี่ก็เคยคบทอม บางทีผู้ชายมันก็มองแค่ว่า เราตีฉิ่ง หรือนอนกัน มีเซ็กซ์กัน แต่จริงๆแล้วมันสำคัญอยู่ที่ความรักนะนา พี่มีไรกับแฟนทอมช่วงแรกๆ แต่พอคบๆไปนานๆ ถึงไม่ค่อยมีอะไรกัน แต่ก็มีความสุข รักกันดี"
     คำพูดของพี่อรทำให้ฉันเบาใจขึ้น แต่ก็ไม่กล้าหยิบเอาเรื่องเมื่อวานที่ฉันมีความสัมพันธ์มาเล่าแต่อย่างใด ซึ่งพีอรคงพอเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
    "พี่อร ไม่ว่าหรอ หากนาคบพี่วิว" ฉันลองถามหยั่งใจ
          "จะว่าได้ไง ความรักของนา พี่ไม่มีสิทธิ์ยุ่งอยู่แล้ว แต่ขอให้เรารักกันแบบพี่น้องต่อไปเหมือนเดิมละกัน"
    "แล้วพี่อรกับพี่เมสร์เป็นไงบ้าง" ฉันถามเรื่องแฟนพี่เขาบ้าง
          "พี่ไม่ได้ไปหาที่ห้องเมศร์นานแล้ว นี่เดี๋ยวเรียนจบพี่ก็จะย้ายไปคอนโดฯ ใกล้ๆผับ แต่คงไม่บอกมันหรอก มันมีกิ๊กเยอะขนาดนั้น พี่ก็ไม่ไหวเหมือนกัน"
    ฉันเริ่มใจหาย เมื่อนึกถึงวันที่พี่อรต้องย้ายออกไป ฉันคงต้องอยู่คนเดียวสักพัก ก่อนมีเพื่อนห้องรูมเมทใหม่
            "อย่าคิดมาก ไงเราไลน์ เฟซคุยกันได้ตลอดอยู่แล้วสมัยนี้ มานอนห้องพี่บ่อยๆก็ได้ พี่ดูห้องเอาไว้แล้วเหมือนกัน นอนสองคนสบายมาก"
    "ใจจริงฉันอยากไปอยู่คอนโดเดียวกับพี่อรมาก ถ้าไม่ติดว่าต้องย้อนกลับมาเรียนที่มหาวิทยาลัยด้วย
           "เอาไว้ถ้านาได้ทำเต้นที่ผับเดียวกับพี่อร คงต้องรบกวนพี่อรหน่อยล่ะค่ะ"
     "รบกวนอะไรกัน มาอยู่ได้เลย ถ้าทำจริงเดี่ยวพี่พาไปบอกผู้จัดการผับให้"
           "ขอบคุณค่ะพี่ เอ้อ ว่าพี่แต่อรสนิทกั้บพี่วิวมากๆ ถามจริงๆพี่วิวมีแฟนยัง"
     "มันก็เคยบอกพี่ว่าโสดตลอดนะ ระยะหลังไม่ได้เห็นควงกับใครเหมือนกัน มีอะไรหรือ" พี่อรทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ฉัน
           "ป่าวหรอกพี่ นาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโลกของเลส มันจะเหมือนหญิงชายที่บางทีก็มีกิ๊กอะไรกันหรือเปล่า"
     "พี่ว่า มันก็เรื่องปกตินะ" พี่อรพูดเสริม "ไม่ว่าทอม เลส หรือชาย มันก็อาจเจ้าชู้กันได้ทั้งนั้น หญิงผู้หญิงด้วยกันแบบทอมดี้เลส มันถึงตัวอะไรกันง่ายด้วย"
      ฉันเริ่มคิด ฉันเพิ่งไปไหนมาไหนกับพี่วิวแบบสนิทไม่ถึงสองเดือน ฉันมีอะไรกับพี่เขาแล้ว แม้อาจมองว่าทำแค่ภายนอก แต่มันก็เหมือนมีเพศสัมพันธ์กันเกินครึ่งค่อนทางเข้าไปแล้ว ช่วงแรกๆตอนรู้จักกันใหม่ๆ พี่วิวมาหารับฉันกินข้าวที่หอบ่อย แต่พอเราสนิทกัน ฉันเองก็บอกพี่วิวว่า ได้คุยในเฟซบุค หรือไลน์ แชทกล้องคุยกันก็เหมือนได้ใกล้กันแล้ว พี่วิวมาเกือบทุกวันเปลืองน้ำมันและรถติดด้วย เปลี่ยนเป็นอาทิตย์หนึ่งไปหาอะไรข้างนอกทานกัน เดินเที่ยวเล่นกันหรือไปผับกันดีกว่า พี่วิวเองตอบรับคำขอของฉัน ซึ่งแม้ไม่ได้เจอกันทุกวัน เราออกไปเจอกันแค่สัปดาห์ละหนสองหน ซึ่งถือว่าบ่อยพอสมควร แม้ว่าไม่ได้อยู่ด้วยกันทุกวันเกือบสองปีเท่าพี่วิว แต่เหมือนความต้องการบางอย่างของเราจูนตรงกันเร็ว จนกระทั่งเมืื่อวานที่ฉันยอมให้พี่วิวทำอะไรบางอย่างแบบที่พี่เขาต้องการ และฉันเคลิ้่มตามยินยอมแต่โดยดี
     เราคุยกันสักพัก จึงเดินกลับออกจากมหาวิทยาลัยด้วยกัน ฉันสิ่งพี่วิวขึ้นรถแท็กซี่ ก่อนตัวฉันรถเมล์กลับยังหอพัก ยังมีอีกหลายเรื่องที่ฉันอยากถาม ทว่าคงกระดากปากอย่างมากหากพูดกันต่อหน้า
     "พี่อร หนูถามอะไรอย่างได้เปล่า" ฉันทักไลน์ไป "พี่วิวบอกว่าฉันคงเป็นเลสควีน มันหมายถึงอะไรหรือ"
          "อ๋อ ก็หมายถึงเรื่องแบบนั้น เวลามีอะไรกัน เลสควีนจะเป็นฝ่ายรับมากกว่า ส่วนเลสคิงก็จะรุกเป็นหลัก" พี่สาวคนสวยพยายามอธิบายให้เข้าใจ
     "รุกมากกว่าเป็นยังไงหรือคะ" ฉันอยากรู้ต่อไป
          "รุกก็คืออีกฝ่ายจะทำให้ข้างเดียว เช่นใช้มือ หรือออรัลหรือ ฉิ่งกันก็จะอยู่บน คอยเป็นฝ่ายทำ" พี่อรอกอย่างตรงไปตรงมา จนทำให้ฉันอ่านแล้วเขินไปเหมือนกัน หากพูดต่อหน้าฉันคงหน้าแดงอย่างกับแตงโมไปแล้ว
    "โห" ฉันรู้สึกทึ่ง "พี่อร นี่ผู้เชี่ยวชาญขนานแท้นะเนี่ย ทำไมพี่อรเคยคบทอม แต่รู้เรื่องเลสเยอะขนาดนี้อ่ะ"
         "บางที ทอมก็ทำอะไรคล้ายๆเลสคิง อย่างทีว่า เราเป็นดี้ก็แค่รอรับไม่ได้ทำกลับให้ แต่ทอมหลายคนก็ชอบทำให้ทำกลับคล้ายๆเลสทูเวย์ หรือเรียกสั้นๆว่าเลสทูน่ะ" พี่อรเล่าอย่างละเอียดจนฉันนึกภาพออกเวลาดูคลิปเลส
     "แบบในคลิปเลสหรือพี่ นาก็เห็นต่างรับและรุกทั้งสองฝ่ายนะ " ฉันบอกไป "แล้วเลสคิงทำให้อย่างเดียว ชีจะถึงหรือพี่"
     "ใช่แบบนั้นแหละ เรียกว่าเลสทู แต่เลสคิงแท้ๆก็มีนะ คือชอบทำให้ ชอบอยู่บน เลสคิงก็มีความต้องการ บางทีชีจะขึ้นบนจนชีกระแทกกระทั้นจนเสร็จก่อนแล้วทำให้เราต่อ" พี่อรหลุดปากออกมานิดหน่อย
     "เอ้ย ทำให้เราเลสอีกฝ่าย ทอมก็ทำแบบนั้น"
     ฉันพอนึกภาพออก และพอคาดเดาได้ว่า พี่วิวอาจเป็นเลสคิงก็เป็นได้ แต่ไม่ได้บอกพี่อรไป กลัวความลับจะแตกเสียก่อน
     "เลสไบเป็นไงพี่" เรียกว่าวันนี้ฉันใส่คำถามเรื่องเลสเต็มเหนี่ยวแบบไม่เคยมีวิชาเพศศึกษาที่ไหนเคยสอนมาก่อนในตำราเรียน
     "หมายถึงเลสที่มีอะไรกับแฟนชาย แล้วก็สามารถมีอะไรกับเลสไปด้วย" พี่อรบอกอย่างตรงไปตรงมา
     "แล้วถ้าผู้หยิงคนนั้นมีแฟนชาย แต่เลิกไป และหันมามีแฟนเลสอย่างเดียวล่ะคะ" ฉันอยากรู้อยากเห็นต่อ
    "ถ้าผู้หยิงคนนั้นเลิกมีอะไรกับชายแบบถาวร ตลอดระยะที่อยู่กับแฟนเลสใหม่ ก็อาจเป็นเลสเต็มตัว จะทู คิง หรือควีนก็ได้จ้ะ" เป็นคำอธิบายที่ชัดเจนและทำให้เข้าใจโลกของเลสขึ้นอีกมากทีเดียว แต่ฉันยังมิวายยิงคำถามต่อ ด้วยความมที่สนิทกัน พี่อรก็ให้ถามได้เต็มที่ทุกอย่าง
     "มีเลสแบบอื่นอีกไหมพี่ โทษทีนะพี่อร หนูถามเยอะ หนูอยากรู้จริงๆ" ฉันกระแซะสุดชีวิต
    "น้องรักขอมา พี่ก็จะจัดให้" พี่อรเล่นมุขเล็กน้อย "มันมี ดี้-เลส" คือมีอะไรกับทอม และกับเลสไปด้วย มีเยอะนะ บางทีดี้อยู่กับทอมก็รับอย่างเดียว แต่พออยู่กับเลส ชีกลายเป็นทูหรือคิงก็มี อย่างที่บอก อย่างไรเสียก็ผู้หยิงด้วยกัน มันมีความต้องการด้วยกันทั้งนั้น สัมผัสตัวหรือมีไรกันง่ายเมื่อถึงเวลาแบบนั้น มันห้ามใจกันไม่ได้หรอก"
      "อ๋อ..." ฉันเข้าใจอะไรต่างๆได้มากขึ้น เหมือนเวลาที่ฉันคุยเฟซหรือไลน์กับผู้หญิงด้วยกัน บางทีก็มีดี้หรือผู้หญิงด้วยกันถามว่า ฉันเป็นเลสอะไร รุกหรือรับ ทำให้ฉันงงไปเหมือนกัน
              "เดี่ยวพี่ลงแท็กซี่ ไปหาอะไรกินแถวห้างก่อนนะนา เดี๋ยวคุยต่อ"
     "ได้ค่ะพี่" ใจจริงฉันยังคุยไม่หายจุใจเลย กับพี่อร คุยได้ทุกเรื่อง ฉันจะไม่ค่อยนิ่งเงียบๆเหมือนตอนอยู่กับพี่วิวที่สวยจนฉันต้องมองแบบอายๆเขินๆบ่อยๆ
             "ไม่แน่นะ พี่อาจเจอวิวแถวๆห้างนี้ เพราะก่อนเข้างาน เราก็มาเดินเล่นหาอะไรกินที่นี่กันบ่อยๆ" พี่อรบอก
    "จ้าพี่อร" ฉันตอบในไลท์ พร้อมส่งสัญลักษณ์รูปหัวใจให้ "จุ๊บๆค่ะ"
.......................
      ในวันสุดท้ายของการสอบที่พีอร เรียนจบ เราไปฉลองกันในผับแห่งหนึ่งใกล้ๆที่ทำงานที่พอร ซึ่งนอกเหนือจากเพืื่อนพี่อรแล้วก็มีฉันและพี่วิวไปด้วย แน่นอนว่า ฉันกับพี่วิวนั่งติดกันไม่เคยขาด ราวกับเป็นคู่ปาท่องโก๋ ขณะที่พี่เมสร์ก็นั่งข้างพี่อรด้วย เพราะเรียนจบพร้อมกัน แม้ฉันสังเกตว่าทั้งสองคนคุยกันน้อยมากก็ตาม
      ฉันกับพี่วิวก็คบกันในฐานะแฟนกันเต็มตัวมากขึ้น แม้ว่าเราไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ตาม ฉันเองไม่ได้ไปห้องพี่วิวบ่อยนัก เพราะพี่วิวทำงานเลิกดึก จะเจอกันก็เฉพาะวันจันทร์เป็นส่วนใหญ่ ที่ฉันไปนั่งเล่นห้องพี่วิวด้วยและกลับมาตอนเช้าวันอังคาร ซึ่งแน่นอนว่า ความสัมพันธ์ของเราลึกซึ้งขึ้น จนมิใช่แค่ภายนอกเหมือนตอนเรามีอะไรกันหนแรกอีกแล้ว
    ตั้งแต่มีอะไรกันครั้งแรกทำให้ฉันรู้ว่าพี่วิวมีความต้องการแบบเลสสูงทีเดียว บางทีฉันไม่อาจตอบสนองให้พีเขาได้มากนัก เพราะฉันเน้นรับหรือเป็นควีนมากกว่า บ่อยครั้งที่พี่วิวขอให้ฉันช่วยทำกลับ เช่นใช้นิ้วบ้าง หรือฉิ่งบนให้บ้าง ซึ่งฉันยังกระดากอายที่จะทำให้ แต่ก็พอรับรู้ได้ว่า ความต้องการของพี่วิวนั้นออกไปในทางลักษณะทู แต่ฉันรับเป็นอย่างเดียวเท่านั้น บ่อยครั้งที่พี่วิวทำให้ฉันเสร็จแล้วพี่เขาต้องช่วยตัวเองต่อบ่อยๆ ซึ่งบางทีก็จับมือฉันไปทำกับตรงนั้นของพี่วิวเองเลย จนฉันอายๆไปเหมือนกัน
     ฉันเคยสงสัยเหมือนกันว่า นอกเหนือจากฉันแล้ว พี่วิวมีแฟนอีกหรือเปล่า เพราะความที่เธอเป็นคนสวยมาก ไปไหนมาไหน กระทั่งผู้หญิงด้วยกันเองยังเหลียวหลังมอง ไปดูเฟซบุคพี่วิวก็เห็นเลสเขามาจีบกันเยอะทีเดียว แต่พี่วิวก็บอกฉันว่าเป็นแค่เพื่อนในเฟซเท่านั้น
   ในคืนเลี้ยงฉลองพี่อรเรียนจบ พี่วิวนั่งข้างฉันตลอดโอบเอวบ้าง แต่ฉันขอเอาไว้ว่า อย่าหอมหรือจูบต่อหน้าพี่อรกับเพื่อนๆ เพราะนอกเหนือพี่วิวแวว ในกลุ่มไม่มีใครู้ว่าฉันคบเลส และมีเพื่อนผู้ชายพี่อรอยู่ด้วย ทำให้ฉันอยากระมัดระวังตัวมากขึ้น หากเป็นเพื่อนผู้หญิงด้วยกัน คงกล้าให้พี่วิวทำอะไรมากกว่านั้น
  ระหว่างนั่งฟังเพลง พี่วิวนั่งจับมือฉันใต้โต๊ะตลอด แต่คนที่ฉันคุยด้วยมากกว่ากับเป็นพี่อร เพราะหลังจากคืนนี้ อีกเพียงไม่กี่วัน พี่อรจะย้ายไปอยู่หอใหม่แล้ว และฉันต้องอยู่คนเดียวสักพักจนกว่ารูมเมทใหม่จะมา ทำให้ฉันขอพี่วิวว่า คืนนี้คงคุยกับพี่อรเยอะหน่อย
   "พี่อร ย้ายไปแล้วนาคงคิดถึงแย่เลย" ฉันอ้อนพี่อร ขณะเริ่มเคลิ้มๆเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์แล้ว
   "เราก็ยังติดต่อเฟซ ไลน์ โทร.คุยกันได้ตลอดนี่ นาว่างเมื่อไหร่ก็มานอนห้องพี่ได้ตลอดนะ" พี่อรพยายมปลอบ
   ฉันเองพูดกระซิบข้างหูพี่อรต่อ "พี่อรรังเกียจหรือเปล่าที่นาคบกับเลส"
   "ไ่ม่เลย พี่รู้ตั้งนานแล้วว่า นาเป็นเลส แต่เราก็ยังดีต่อกันเหมือนเดิมเสมอมามิใช่หรือ พี่เองก็บอกแล้วเคยเป็นดี้ เรืองแบบนี้พี่ก็พอรับรู้ได้ว่านาเป็นเลส" พี่อรเหมือนเข้าใจนามานานแล้ว เข้าใจก่อนฉันรู้จิตใจตัวเองเสียอีก
    "พี่อรเคยบอกว่า หากเลิกกับพี่เมสร์แล้วจะมองนาคนแรก ยังจำได้ไหม" ฉันหยิบประโยคที่พี่อรเคยพูดไว้มาอ้างอิง
     "จำได้สิ แต่นามีแฟนไปแล้ว คงไม่ต้องการพี่แล้วมั้ง" พี่่อรยิ้มและยักคิ้วไปด้วย พยายามลดความซีเรียสเรื่องที่เราคุยกันลง
    "ถ้าพี่อรเปลี่ยนมาเป็นเลสจริง นาก็จะให้พี่อรได้ทุกเมื่อนะ ต่อให้พี่อรมีแฟนใหม่ไปแล้วด้วยซ้ำ" ฉันสารภาพอย่างหมดใจ จนพี่อรนิ่งไปครู่หนึ่ง
   "ระวังวิวได้ยินจะเสียใจนะ" พี่อรหันมาพูดเบาๆเตือน
       "นาอยากคุยกับพี่อรแบบสนิทใจหน่อย ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนนาได้ไหมพี่อร" ฉันพยายามแยกตัวจากพี่วิวสักครู่เพื่อได้คุยกับคนที่ฉันรักแบบตัวต่อตัวกันมากขึ้น พี่อรหงกหัวลงเล็กน้อยและทำท่าจิบเหล่าไปด้วย
   "พี่ิวิว" หนูพูดที่ข้างหูแฟนสาว "นาขอไปห้องน้ำกับพี่อรแป๊บนะคะ "
          "ตามสบายจ้า" พี่วิวตอบพร้อมรอยยิ้มที่ใครเป็นปากเรียวคมของพี่เขาแล้ว ต้องอดต้องเสน่ห์ไม่ได้
   เราเดินโดยไม่ได้จับมือกัน เพราะฉันเกรงใจพี่วิว แม้ว่าปกติฉันกับพี่อรไปไหนมาไหนโอบเอวหรือโอบไหล่กันจนเป็นเรื่องปกติมาก
   เราทำธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อย เดินออกมาคุยยังมุมมืดมุมด้านซ้ายของห้องน้ำซึ่งเป็นโต๊ะว่าง ไม่มีใครนั่ง และห่างไกลจากโต๊ะเราเองพอสมควร
          "พี่อร" ฉันเริ่มต้นบทสนทนา "วันนี้พี่อรสวยมากเลยรู้ตัวป่าว"
     "หืม ไม่เท่านาหรอก นาหุ่นดี สวยกว่าพี่ตั้งเยอะ" พี่อรชมนาเหมือนเคย
     "พี่อร จะย้ายออกไปอีกสองวันแล้ว นาคิดถึงแย่เลย" ฉันทำสายตาอ้อน และเอื้อนถาม พร้อมกับจ้องนัยตาพี่คนสวยไปด้วย
     พี่อรทำตาเหมือนคนเจ้าชู้ ขยิบตาให้พร้อมกับชวนจิบเหล้าไปด้วย "คิดถึงก็ไปหาพี่ได้ทุกเมื่อ เฟซ ไลน์ ที่อยู่พี่ก็มีอยู่แล้ว"
    "แล้วบอกพี่เมศร์หรือยังว่า พี่อรย้ายไปอยู่ไหน" ฉันถามต่อ
    "เปล่า พี่บอกแค่ว่า อยู่หอกับนาไปเหมือนเดิม" พี่อรเริ่มมีแววตาเครียดเล็กน้อย รอยยิ้มมุมปากเริ่มหายไป "นาอย่าบอกว่าพี่ย้ายออกไปแล้วนะ"
     ฉันพยักหน้า ขณะที่พี่อรเล่าต่อไป "อย่างที่พี่เคยบอก พี่รู้สึกเบื่อกับชีวิตคู่วัยหนุ่มสาวที่มันไม่ค่อยคิดเรื่องอนาคต คิดแต่ความสุข พี่มองเมศร์ว่า ความคิดเหมือนเด็กๆที่เอาแต่จีบสาว อยากเจ้าชู้ไปวันๆ ขนาดพี่ให้ยืมเงิน ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าให้เลยมากกว่า มันยังแอบคบคนอื่น นี่พี่ีกะว่า จับได้แบบคาหนังคาเขาเมื่อไหร่ คงบอกเลิก และมันคงหมดข้อแก้ตัว"
   ความจริงแล้ว ฉันรอวันที่พี่อรเป็นโสดเหมือนกัน เผื่อพี่อรอันมามีใจให้ฉันมากกว่าคำว่าพี่น้อง แต่อีกด้านหนึ่ง รู้สึกเห็นใจมากมาย เพราะเป็นฝ่ายพี่อรดูแลพี่เมสร์เสียมากกว่า และคบกันร่วมสองสามปีแล้ว และไม่อยากเห็นพี่อรเสียใจด้วย
   "ไม่ต้องห่วงนะพี่อร นาจะคอยดูแลพี่อรบ้าง เพราะพี่อรดูแลมาเยอะแล้ว" ฉันพยายามเปลี่ยนเรื่องคุย
  "ย่ะ แหม" พี่อรเริ่มยิ้มได้ "มีคนสวยๆดูแลพีขนาดนี้ พี่สู้ขาดใจเลย"
  "พี่อร เดี่ยวคืนนี้นาไปนอนห้องพี่วิวนะ พี่อร อยู่คนเดียวได้ไหมคืนนี้ เดี่ยวพรุ่งนี้นากลับมาช่วยเก็บของให้ตอนบ่ายๆ" ฉันชวนคุยต่อ
  "จ้า ไปกับแฟนเถอะจ้า แหม กำลังข้าวใหม่ปลามันก็งี้แหละ" พี่อรแซว ทำให้ฉันเขินจนไม่กล้ามองตากลับ
  "แซวอีกละ พี่อรก้อ" ฉันทำจมูกย่อนๆ ทะเล้นๆใส่ "เดี่ยวจับหอมแก้มเลยนิ"
  "อ่ะ หอมเลย" พี่อรยื่นแก้มให้ ฉันเอียงปากประทับที่แก้มพี่อรและหอมฟอดใหญ่
  "รักจริงๆผู้หญิงคนนี้" ฉันบอก
  "พี่โสดเมื่อไหร่ มารักได้เลย" พี่อรพูดทีเล่นทีจริง "ถึงตอนนั้น นาก็ลืมพี่ไปแล้วละ ยิ่งมีแฟนสวยขนาดนี้"
  "โห พี่วิวจะอยู่กับหนูนานเท่าไหร่กัน สาวๆพี่วิวเยอะจะตายในเฟซบุคชี" มันคือความเป็นจริงที่ฉันไม่อยากเข้าไปดูหน้าเฟซ หรือไทม์ไลน์พี่วิวมากนัก เนื่องจากเต็มไปด้วยผู้หญิงสวยๆมาคุยจีบ และบางทีพี่วิวเหมือนทีเล่นทีจริงกลับไปด้วย
   นี่เป็นคืนสุดท้ายที่เราจะได้เที่ยวด้วยกัน เพราะพี่อรต้องแยกห้องออกไป และคงได้พบกันยากยิ่งขึ้น ฉะนั้น ฉันจึงอยากถามความในใจลึกๆ ของพี่อรเพื่อหยั่งใจว่า พอมีความรักให้ฉันในแบบคนรักบ้างไหม
   "พี่อร เราเที่ยวกันเป็นคืนสุดท้ายแล้ว นาขออะไรอย่างเดียว พี่อะจะให้ได้หรือเปล่า" ฉันเริ่มมึนเพราะแอลกอฮอลล์ได้สักพัก จึงเริ่มกล้ายิงคำถามแบบตรงไปตรงมา
    "ขึ้นอยู่กับว่า นาจะขออะไร ถ้าให้ได้พี่จะให้" พี่อรบอก
   "ถ้านาถามอะไรสักอย่าง นาอยากให้พี่ตอบจากใจจริงพี่ข้อเดียวเท่านั้น" พี่อรหยักหน้ารับปาก ส่วนฉันเริ่มหมดอายและอยากเผชิญความจริงเสียที หนก่อนตอนเราจูบกันหนแรก พี่อรบอกว่ารักแบบพี่น้อง แต่ในใจฉันรู้สึกว่า ถ้าเป็นแบบพี่น้อง พี่อรคงไม่คิดจูบฉันแบบนั้นแน่
   ฉันกลั้นใจนับหนึ่งสองสามก่อนยิงคำถามออกไป "ระหว่างเราอยู่ห้องเดียวกันมาเกือบสองปี มีสักวันไหมที่พี่อรเคยนึกรักฉันแบบคนรักกัน"
   พี่อรไม่กล้าสบตาฉันตรงๆ ราวกับไม่เชื่อว่าฉันกล้าถามแบบเจาะใจขนาดนี้ และนิ่งเงียบมองแก้วเหล้าในมือเล็กน้อย ก่อนโอบเหล่าฉันเข้าไปแนบสนิทตัวพี่เขา
  "พี่ว่า นาเคยได้คำตอบไปแล้วนะ" ฉันเริ่มตกใจ เพราะพี่อรเคยบอกว่า รักฉันแบบพี่่น้องเหมือนหนก่อน
  "จำได้ไหม พี่เคยบอกว่า วันใดพี่ไม่มีใคร พี่พร้อมเป็นแฟนนาเสมอ คิดว่าพี่พูดเล่นหรือจริงล่ะ" พี่อรหันมามองหน้าฉันตรงๆ และสายตาดูจริงจัง
  "แล้วพี่อรักนาตั้งแต่เมื่อไหร่" ฉันพยายามถามนำ
  "มันกำหนดวันเวลาเจาะเจงไม่ได้หรอก พี่บอกแล้วไง คนเรารู้สึกดีๆต่อกัน ห่วงหาห่วงใยกัน พูดคุยภาษาเดยีวกัน มันก็เกิดความรักได้ มันคงค่อยๆพัฒนาตามกาลเวลากระมัง" พี่อรพูดแบบซีเรียสขึ้น "ถ้าพี่ไม่มีเมศร์เป็นแฟน พี่อาจเป็นแฟนนาไปแล้วก็ได้"
   "เราเกี่ยวก้อยสัญญากันนะพี่อร ว่าจะรู้สึกดีๆกันแบบนี้ตลอดไป" ฉันยกนิ้วก้อยมือขวาขึ้นมา พี่อรยกนิ้วมาเกี่ยวกันและยิ้มไปด้วย
  เราจ้องหน้ากันและเปลี่ยนจากการเกี่ยวก้อยมาเป็นจับมือกันอย่างแนบแน่น แล้วไม่รู้ว่าเราจ้องหน้ากันนานเพียงใด เพราะเหมือนใบหน้าของเราค่อยๆขยับเข้าหากัน จนจมูกสัมผัสกันอย่างแผ่วเบา เหมือนจิตใจเราสื่อถึงกันอย่างไม่ต้องเอื้อนเอ่ยถ้อยคำใดๆ ริมฝีปากเราสัมผัสกันอย่างช้าๆ และอยู่ในห้วงอารมณ์นั้นหลายวินาที
  เราถอยใบหน้าออกมามองตากันสักพัก และรู้สึกตรงกันว่า อยากสัมผัสกันอีกครั้งในคืนสุดท้าย ฉันจูบพี่อรแบบดูดดื่มพร้อมกับเอื้อมมือโอบคอพี่เขาไปด้วย เช่นเดียวกับที่ีพี่อรโอบเอวฉันเหมือนกับคนรักในมุมมืดที่ไร้คนเดินมาตรงนั้น
  มันเป็นคืนที่ฉันอยากอยู่กับพี่อรเหลือเกิน หากไม่ติดว่ารับปากกับพี่วิวเอาไว้ เรากลับมานั่งที่โต๊ะโดยไม่มีใครถามหรือสงสัยอะไร ยกเว้นคำถามของพี่วิว
   "เป็นไงบ้างนา คุยกันเรื่องอะไรหรือ" พี่วิวถาม
   "ก็ไม่มีอะไรพี่ คุยกันเรื่องทั่วไปว่า พี่อรจะย้ายไปอยู่ไหน แล้วนาก็บอกว่า อีกสักพักจะขอไปทำงานแดนเซอร์ที่ร้านด้วย อะไรทำนองนี้" ฉันเฉไฉไปเรื่องอื่น โดยทำทีพูดเรื่องที่พรอรจะย้ายออกไปให้เบาสุด เพราะกลัวพี่เมสร์ไ้ดยิน "พี่วิวอย่าบอกเรื่องพี่อรจะย้ายออกจากหอนะ พี่อรไม่ได้บอกพี่เมศร์"
   พี่วิวหยักหน้า ยิ้มๆ เพราะคงรับรู้เรื่องราวที่พี่อรกับพี่เมศร์มีปัญหากันอยู่เหมือนกัน ตามประสาเพื่อนสนิท ฉันใช้มือขวาหยิบแก้วเราชนกับพี่วิว และคุยกันต่อ แต่มือซ้ายนั้น แอบกุมมือที่อรใต้โต๊ะไปด้วย ซึ่งพี่ีอรก็กุมมือตอบอย่างแนบแน่นเช่นกัน เราจับมือกันบ้างปล่อยบ้าง เพราะกลัวพี่วิวสังเกตเห็น
  เมื่องานเลี้ยงเลิกรา พี่วิวขับรถพาพี่อรไปส่งที่หอก่อน ฉันโบกมือและส่งสายตาให้พี่อรเหมือนปกติ แต่ในใจของเรารับรู้ได้ว่า บางอย่างได้สามารถสื่อถึงกันได้ และรับรู้ความในใจของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี
  ใช่ เมืื่อใดฉันไปนอนห้องพี่วิว นั่นหมายถึงเราย่อมมีอะไรกันเป็นเรื่องธรรมชาติ ในคืนนั้นก็เช่นกัน พี่วิวร่วมรัก รุกใส่ฉันอย่างเร่าร้อน แต่ในห้วงคำนึงของฉันระหว่างหลับตาพร้อม กลับนึกถึงแต่พี่อรเสมอ และคิดว่าคนที่กำลังรุกฉันอยู่คือพี่อรตลอดค่ำคืน

 

 


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้นะคะ