วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
ความปรารถนาของเลส
ในวันที่เราไปเที่ยวกันทั้งฉันพี่อร รวมถึงหวานกับคู่เลสของเธอ หวานชวนคู่เลสไปโรงแรมต่อ ขณะที่พี่อรเองวันนี้ดูจะพูดน้อยผิดปกติ เหมือนพี่อรไม่ชินกับภาพที่ผู้หญิงจูบกันอย่างดูดดื่มหลายคู่มาแล้ว ก็เหมือนกันที่ฉันกับพี่อรเคยจุมพิตกัน ซึ่งทำให้ฉันรับรู้ว่า พี่อรเริ่มมีใจให้ฉันบ้างเช่นกัน
แต่เราก็ยังไม่ได้มีความพันธ์ด้านเซ็กซ์กันเลยแม้แต่น้อย เพราะความที่พี่อรเองยังคบพี่เมศร์แฟนชายอยู่ กระทั่งฉันเรียนจบ จึงได้ออกจากหอพักมหาวิทยาลัย และขอมานอนที่คอนโดพี่อรชั่วคราวก่อน เพราะใกล้ผับที่เราทำงานอยู่
ช่วงนั้นเหมือนพี่อรซึมๆไปบ้าง เพราะมีปัญหากับพี่เมศร์อย่างหนัก จนท้ายสุดพี่อรยอมรับว่า ขอเลิกกับพี่เมศร์ พี่อรเปลี่ียนเบอร์โทรศัพท์ทุกอย่าง และพี่เมศก็ไม่เคยรู้ที่ทำงาน และคอนโดของพี่อรอยู่แล้ว เพราะเวลามีความสัมพันธ์กันพี่อรจะไปนอนห้องพี่เมศร์เอง เหมือนกับพี่อรไม่ให้แฟนชายของตนรู้ที่อยู่ใหม่ เพื่อกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง เนื่องจากพี่อรเคยเจอข้อความที่พี่เมศร์เคยคุยกับบรรดาสาวทั้งหลายมาแล้ว เพียงแต่ยังตัดใจไม่ได้เท่านั้น
พี่อรขอพักหยุดงานไปบ้านต่างจังหวัด 3 วัน เพื่อกลับไปทบทวนสิ่งต่างๆ บางทีการได้กลับไปอยู๋กับครอบครัวพ่อแม่พี่น้อง ในบรรยากาศของบ้านนอก ก็ช่วยให้ลบเลือนเรื่องราวความสับสนสังคมวุ่นวายในเมืองหลวงได้เหมือนกัน
บ่ายวันต่อมา ภายหลังพี่อรกลับถึงบ้านต่างจังหวัดแล้ว เราจึงได้เปิดอกคุยกัน หนนี้เป็นฉันที่รับฟังปัญหาของพี่อรบ้าง หลังจากพี่อรเป็นฝ่ายรับฟังปัญหาฝ่ายเดียวมาตลอดเกือบสี่ปีที่รู้จักกัน
"พี่อร ถึงบ้านหรือยัง" ฉันโทรศัพท์ถามด้วยความเป็นห่วง
"ถึงเรียบร้อยแล้วจ้า น้องนาคนสวย" พี่อรตอบฉันด้วยน้ำเสียงสดใส
ฉันเคยไปบ้านต่างจังหวัดของพี่อรมาแล้วหนหนึ่ง เป็นบ้านอยู่ในสวน ลักษณะปูนครึ่งไม้ อยู่ไม่ห่างจากคลองน้ำจืด ตอนเช้าอากาศเย็นสบาย สดชื่นมาก ตอนบ่ายๆฉันกับพี่อรเคยนั่งริมระเบียงทำอะไรกินกัน ตกเย็นจิบเบียร์ดื่มด่ำกับธรรมชาติดียิ่งนัก ยามดึกงียบสนิท มีเพียงเสียงจิ้งหรีด และแมลงร้อง
บางทีความพยายามลบเลือนความเจ็บปวด อาจเป็นการกลับไปหาธรรมชาติอีกครั้ง ธรรมชาติอาจช่วยให้เราได้ความสมดุลด้านจิตใจกลับคืนมา และเตรียมกลับไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง
"ทำอะไรอยู่คะ" ฉันถามไปโดยไมพยายามพาดพิงไปยังเรื่องที่พรเลิกกับแฟนชาย
"นั่งตรงระเบียงจ้ะ" พี่อรตอบ เสียงลมอ่อนๆเหมือนพัดมาตรงนั้นซึ่งเราเคยนั่งจิบเบียร์กัน "นาตื่นแล้วหรอ ไปทำงานกี่โมง"
"เย็นๆค้พพี่ แต่คงออกไปสักบ่ายสามบ่ายสี่ ไปเดินเล่นแป๊บ หาไรกินก่อนค่อยไปทำงาน" ฉันตอบไป ก่อนชวนคุยแบบสบายๆ
"อากาศดีไหมพี่อรวันนี้" ฉันนึกถึงลมอ่อนๆ ตอนบ่ายๆ ชวนน่านอนยิ่งนัก ท่ามกลางสวนที่เต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น
"ก็ดีนะ กลับบ้านแล้ว ทำให้ได้สูดอากาศสดชื่นหน่อย พักสัก 2-3 วัน กลับไปมีพลังเต็มถัง แดนซ์กระจายแน่นอนจ้ะ" เสียงพี่อรยังคงคุยเล่นสนุกได้เหมือนเดิม ก่อนเอ่ยถึงเรื่องส่วนตัวเพื่อไม่ให้ฉันกังวล "ไม่ต้องห่วงนะนา พี่ไม่เป็นอะไรเลิก ใช่ครั้งแรกที่พี่เลิกกับแฟนเสียเมื่อไหร่ ลมหายใจพี่คือพ่อแม่ครอบครัว อนาคตมากกว่า คนเราเวลาเลิกกับแฟนมันก็เสียใจบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่พี่โตขึ้นแล้วเจ็บไม่นานหรอก"
"จ้า นาเองก็เคยเจ็บ แม้ว่าแฟนผู้หญิงก็เถอะ หนแรกนี่เจ็บหนักมาก ไม่ได้พี่อรคอยอยู่ใกล้ๆ ให้กำลังใจ ให้คำแนะนำนี่หนูคงแย่เลย"
"สงสัยกลับไป พี่ต้องให้นาปลอบบ้างแล้วละ" พี่อรพูดทีเล่นทีจริงต่อ "ตอนนี้พี่โสดแล้วนะ พี่เคยบอกไว้ ถ้าโสดจะขอนาเป็นแฟนคนแรกไง"
ชั่วโมงนี้ฉันไม่รู้จะดีใจหรือเสียใจ อีกด้านหนึ่งห่วงพี่อรและรักพี่อร กลัวพี่อรผิดหวังที่ต้องเลิกกับแฟน อีกด้านหนึ่งฉันเองก็รอวันที่พี่อรจะรักฉันในแบบคนรัก ทว่าชั่วโมงนี้คงไม่เหมาะที่นาจะขอพี่อรเป็นแฟนแน่นอน
"พี่อรสวยขนาดนี้ เดี๋ยวก็มีคนเข้ามาอีกเยอะ ไม่ถึงหนูหรอกน่า" ฉันพยายามเปลี่ยนเรื่อง
"ปากหวานอีกแล้ว น้องฉัน งี้เดี๋ยวต้องมีตบจูบ ดูสิว่าหวานจริงไหม"
แม้ว่าพี่อรคุยเล่น แต่ฉันรู้สึกว่า ในใจของพี่อรยังมีความเจ็บซ่อนอยู่บ้าง ฉันเองก็พยายามคุยติดตลกไปโดยปริยาย
"ถ้ากล้า ก็ให้น่า แหม"
"โอเค เดี๋ยวคุยไลน์กันนะนา โทรศัพท์อยู่คนละจังหวัดเดี๋ญวนาเปลืองแย่"
"ได้ค่ะพี่ แล้วไลน์กันจ้ะ"
มันเป็นค่ำคืนที่เราคุยไลน์กันอีกยาวเกือบดึกดื่น โดยที่แทบไม่มีหัวข้อเรื่องแฟนเก่าพี่อรเข้ามาเลย เราคุยกันเรื่องที่ผับ นินทาลูกค้าบ้าง คนนั้นคนนี้มาจีบบ้าง บางคนก็มาเสนอเงินเพียงเพื่อให้เราบริการทางเพศให้ ซึ่งพี่อรก็สอนวิธีพูดปฏิเสธแบบสุภาพ หลบเลี่ยงได้ และบอกฉันว่า หากเจอคนดีๆ ก็ควรพิจารณาไว้บ้าง คนเที่ยวไม่ใช่ไม่ดีหมด เมื่อถึงเวลาหนึ่ง นาก็อาจต้องมีครอบครัว ในสังคมไทย คงยากจะรับการเป็นเลส รับลูกมาเป็นบุตรบุญธรรมให้คนยอมรับเหมือนเมืองนอก
พี่อรบอกต่อไปอีกว่า เคยมีเพื่อนเลสบางคน มีสามี หรือกระทั่งมีลูกแล้ว แต่ก็แอบคบเลส มีไรกับผู้หยิงด้วยกันไปด้วย บางครั้งเธอเองก็ต้องมีครอบครัว แต่อีกด้านหนึ่งความสัมพันธ์กับเลสก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องการอยู่ ฉะนั้น ต่อให้นามีแฟนชาย หรือมีครอบครัวแล้วก็ไม่ใช่จะมีแฟนเลสไม่ได้ มันแทบกลายเป็นเรื่องปกติแล้วที่ในสังคมชาวเลสทราบกัน เพียงแต่ส่วนใหญ่เรื่องจะปิดบังเรื่องราวส่วนตัวไว้ บางคนเปิดเผยกับสามีถึงความต้องการมีความสัมพันธ์กับเลสด้วย บางคู่ให้แฟนชายร่วมหลับนอนกับแฟนเลสของตนด้วยในแบบเลสไบ หรือหลายคนก็แอบมีพันธะกับเลสโดยไม่บอกสามีของตน มากมายเต็มไปหมดที่สังคมไทยยังรู้เรื่องราวเกี่ยวกับเลสน้อยมาก
...........
วันเวลาผ่านไป บรรยากาศบ้านไร่สวนดูเหมือนทำให้พี่อรหายจากอาการเศร้ามากขึ้น เหมือนอย่างที่พี่เขาว่าไว้ ประสบการณ์ในอดีตทำให้พี่อรรู้จักควบคุมจิตใจตนเอง โตขึ้น ตระหนักดีว่า อนาคตของตนเองและครอบครัวที่ต้องดูแลคืออะไร มันคือความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงมากกว่าแฟนคนหนึ่งที่ไม่ได้จริงจัง หรือซื่อสัตย์ต่อตนเอง และมิได้วางแผนอนาคตไว้ร่วมกัน
ตอนสายวันศุกร์ พี่อรกลับมาถึงคอนโดเรียบร้อย แน่นอนว่า เดี๋ยวพี่คนสวยของฉันนอนพักเอาแรง เพื่อเตรียมไปทำงานตอนเย็น และวันศุกร์เป็นวันที่เรามักขาดกันไม่ได้ เนื่องจากลูกค้าเยอะและเงินทิปมักจะนักจนล้นยกทรงตอนเต้นบนเวทีกันเลยทีเดียว
"สวัสดีจ้ะ คนสวย" พี่อรเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับทักฉันด้วยรอยยิ้ม "เป็นอย่างไรบ้าง แอบเอาสาวๆมานอนบ้างป่าวนิ"
"บ้า" นาหัวเราะ "เค้าไม่ทำแบบนั้นหรอก ห้องพี่อรนะ ไม่ใช่ห้องนา แหม แล้วนาไม่มีสาวที่ไหนด้วย"
"ไหนมากอดหน่อยให้หายคิดถึงหน่อยสิ" ว่าแล้วพี่อรก็โอบฉันไปกอดพร้อมกับหอมแก้มหลายทีจนฉันแอบเขินเล็กๆ
"ไปกินอะไรมาเนี่ยพี่อร อยู่ดีๆหอมเอาๆ" ฉันบอก
"ก็คิดถึงนี่นา"
ฉันช่วยเอากระเป๋าพีอรไปเก็บ หาน้ำเย็นให้ดื่ม เราคุยกันเรื่องราวจิปาถะทั่วไป ก่อนที่พี่อรขอตัวไปอาบน้ำ และนอนพักบนเตียง ฉันเองก็พยายามทำอะไรเงียบๆ เพราะกลัวพี่เขาหลับไม่สนิท
ตกเย็นเราไปกินข้าวด้วยกัน และเข้าไปยังผับเพื่อทำงาน มันยังเป็นช่วงเวลาที่ฉันไม่ได้คุยกับพี่วิวเลย เรียกว่านับตั้งแต่มีปัญหาจนเลิกกัน เราเหมือนเข้านานกันไม่ติดอยู่ แต่พี่วิวก็สังเกตว่า ฉันกับพี่อรสนิทกันกอดคอ บางทีก็แกล้งหอมกันบ่อยๆ จนพี่วิวแอบเหล่หางตามามองเหมือนกัน ทว่าฉันเองไม่ได้แคร์อะไรกับสายตาพี่วิวอยู่แล้ว ยามพักจากบนเวทีหรือลูกค้า ฉันก็กอดคอหอมกับพี่อร ชนแก้วอะไรกันตลอดจนทำให้คนคิดว่าเราเป็นแฟนกันไปเรียบร้อยแล้ว
มันเป็นค่ำคืนที่พี่อรบอกว่า "ฉลองความเป็นโสด" อีกครั้ง พี่อรดื่มหนักทีเดียว และร่าเริงเหมือนถูกปลดปล่อยจากพันธนาการบางอย่าง บางช่วงก็โอบฉันไปจูบแบบเล่นๆให้หนุ่มๆอิจฉากันอีก
พอเลิกงานกับถึงห้อง พี่อรเหมือนยังเมาพอสมควร จนฉันต้องหิวปีกไปนอนบนเตียง แต่พอพี่อรหลังถึงเบาะ ก็โน้มตัวฉันลงไปกอดและจูบเฉย
"นารักพี่ไหม" พี่อรถามขณะที่ตาแทบจะปิด และเคลิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอลล์ "เราเป็นแฟนกันนะนา พี่อรพยายามจูบฉันไม่หยุดหย่อน แต่ฉันรู้ดีว่าปกติพี่อรมิใช่ทำอะไรแบบนี้ ฉันรู้สึกเหมือนพี่อรอยากมีอะไรกับฉัน บางทีอาจเพื่อกลายเป็นเลส หรืออาจต้องการให้ลืมแฟนเก่า ว่ากันว่า บางครั้งหากเราจะลืมแฟนเก่า การมีเซ็กซ์กับคนใหม่ที่คบกันก็มีส่วนช่วยได้บ้างไม่มากก็น้อย และเยียวยาคนที่บาดเจ็บมาได้เหมือนกัน
"หนูรักพี่นะ" นาหอมแก้มพี่อรเบาๆ ขณะที่พี่อรคลายจูบลง ในความรู้สึกของฉัน เป็นห่วงและเห็นใจพี่อรอย่างยิ่งที่ต้องผิดหวังกับความรักบ่อยๆ แต่ใครบ้างล่ะไม่เคยเป็นเช่นนี้ ทุกคนเคยรัก เคยอกหักเคยเจ็บ และฉันก็ยังไม่อยากได้พี่อรเป็นแฟน หรือมอบความสัมพันธ์ขั้นลึกซึ้งให้เพื่อให้พี่อรลืมแฟนเก่า หากเราจะมีอะไรกัน ฉันอยากให้พี่อรรักฉันในแบบแฟน หรือคนรัก เหมือนกับที่ฉันรักพี่อรมากกว่า
ฉันรู้สึกว่าตัวพี่อรร้อนผิดปกติ ไม่ว่าเพราะเหล้าหรือไข้ก็ตาม ฉันเอามืออังหน้าผากพี่อน และเสยผมพี่อรขึ้นเล็กน้อยเพื่อดูอาการไข้ พี่อรค่อนข้างเมามาก และเหมือนต้องการพักผ่อนเต็มที่แล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าเลย ฉันเองก็ยังไม่ได้อาบเช่นกัน แต่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้านเป็นกางเกงขาสั้นเสื้อยืดก่อน เพื่่อความสบายตัวและจะได้ช่วยถูตัวพี่อรได้ถนัดๆ พี่อรจะได้นอนสบายตัวขึ้น
การเช็ดตัวให้พี่อร ทำให้ฉันตระหนักดีเมื่อครั้งพี่เขาเคยดูแลฉันแบบเดียวกัน ฉันค่อยๆประคองให้พี่อรลุกขึ้นนั่งบนเตียงแล้วถอดเสื้อยืดออกซึ่งก็ไม่ง่ายเลย จากนั้นก็ต้องถอดกางเกงฟิตปึ่งให้ด้วย ฉันกระดุมกางเกงยีนส์รูดซิปลง เอามือประคองก้นให้พี่อรขึ้นแล้วค่อยๆปลิ้นขอบกางเกงยีนส์ออกทีละเล็กละน้อย จนเนื้อผ้าพ้นขอบสะโพจึงถอดได้ง่ายขึ้น กระทั่งมันหลุดออกจากข้อเท้า นี่มิใช่การถอดเสื้อผ้าผู้หญิงขณะกำลังต้องการมีอะไรกัน หากแต่เสมือนการดูแลคนป่วยคนไข้
พี่อรเหลือแต่ยกทรงกับชั้นในปิดของสงวนไว้ ฉันไม่ได้คิดอะไรเป็นอื่น ไม่ได้คิดมองของสงวนหรือจับต้องใดๆ ไม่คิดเรื่องเพศใดๆอย่างสิ้นเชิง ฉันเอาน้ำชุบหน้าและคอพี่อร จากนั้นก็เช็ดตัวให้ ตั้งแต่มือไปจนถึงไหล่ ตั้งแต่หน้าอกไปจนถึงหน้าทอง ต้นขาไปจนถึงปลายเท้า ก่อนพลิกตัวให้พี่อรหันข้างให้เพื่อเช็ดหลังตั้งแต่ต้นคอจนถึงเอว และต้นขาหลังไปจนถึงน้อง เอาผ้าขนหนูเช็ดให้ตัวแห้งอีกที ทั้งด้านหลังและหน้า ก่อนใช้แป้งทาให้ที่หลังและขา รวมถึงอก เอว แขน ขา ทุกอย่าง แล้วก็หยิบเสื้อยืดกางเกงใส่อยู่บ้านมาใส่ให้ ซึ่งทำให้ฉันรู้ว่าการดูแลคนป่วยมิใช่ง่ายเลย กว่าจะสวมเสื้อผ้าใส่ให้ก็อีกหลายนาที ฉันเปิดแอร์เย็นๆ แล้วห่มผ้าห่มนวมให้จนกระทั่งพี่อรหลังสนิทไป ดูพี่อรนอนสบายตัวขึ้นเล็กน้อย ก่อนฉันเองไปอาบน้ำ คืนนั้นฉันไม่ได้หยิบโทรศัพท์หรือโน้ตบุ้คมาคุยกับเพือนๆ หรือใช้งานใดๆอีก ฉันเช็ดตัวให้แห้ง ใส่เสื้อผ้าแล้วรีบใต้ผ้าห่อมข้างๆพี่อร ใจจริงฉันอยากนอนโอบกอดพี่เขามาก แต่ค่ำคืนนี้ฉันอยากให้พี่อรนอนสบายตัวที่สุด แค่ฉันได้ดูแลใกล้ๆคนที่ฉันรักแบบนี้ก็มีความสุขที่สุดแล้ว ฉันรักพี่อรในความรู้สึกแบบที่เลสมีให้แก่ผู้หญิงคนหนึ่งได้ โดยมิได้มีเซ็กซ์ต่อกันเลย ปรารถนาของฉันมีเพียงเท่านี้...
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้นะคะ