อย่างที่ฉันเคยบอกไป ในสังคมเลส มีผู้หญิงมากมายที่มีครอบครัวแล้ว แต่ก็คบเลสไปด้วย บางครั้งฝ่ายชายเองทราบ บางครั้งก็ไม่ทราบ แต่มันคือโลกของความเป็นจริงและเรื่องจริง ที่ฉันได้รับฟังจากการเล่าบอกของเพื่อนสนิทในเฟซหลายคน
เลสที่มีแฟนชายแล้วมีอะไรกับผู้หญิงด้วยกันไปด้วย หรือบางครั้งเป็นแฟนกับเลสด้วยกันก่อน และมามีความสัมพันธ์กับแฟนชายในเวลาต่อมา คือความหมายของ "เลสไบ" ซึ่งเป็นเรื่องปกติในโลกของเลส อยู่ที่ว่าจะปกปิดหรือเปิดเผยกับใครสักคน
เลสไบหลายคนมีครอบครัวถึงขั้นแต่งงานกันไปแล้ว จดทะเบียนกันไปแล้วก็มีแฟนเลสไปด้วย บางคนทำงานดีทั้งราชการ ธนาคาร หรือนักธุรกิจหญิง พริตตี้ หรือกระทั่งคนธรรมดาแบบเรา
.....
"ภัคจิรา" เป็นผู้จัดการสาววัย 30 ต้นๆ ของโรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง หน้าตาเธออาจไม่ใช่คนสวยมาก แต่ดูดี แต่งหน้าแล้วดูน่ารัก ผมยาวถึงกลางหลัง ปากผมชมพู จมูกโก่ง ตาคมและมีลักยิ้มด้วย เธอมีแฟนชายชื่อ "เอก" คบหากันมาสี่ห้าปีดีดัก ความสัมพันธ์ที่มีอะไรกันในแบบคนรัก คือเรื่องปกติของมนุษย์เรา แน่นอน เอกมิใช่ชายคนของภัค เพราะก่อนหน้านั้นเธอเคยเป็นเลสไบมาก่อน คือมีความสัมพันธ์ทั้งชายและหญิงในเวลาเดียวกัน
ในเฟซบุค เธอระบุความสัมพันธ์ไว้ว่า สนใจทั้งชายและหญิง ซึ่งตอนแรก "เอก" ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะใครๆก็ลงข้อมูลแบบนี้ทั้งนั้น เพราะอาจหมายถึงเพื่อนชายและเพื่อนผู้หญิงได้ ภัคมีเพื่อนเลสในเฟซมากมาย ทั้งเลสทู คิง ควีน ดี้เลส เลสไบ มีคนเข้ามาคุยกับเธอมากมาย เพื่อหวังได้นอนกับเธอ แน่นอน มีเลสบางคนที่มีอะไรกับภัคอย่างลึกซึ้งบนเตียงแบบไม่ผูกมัด บางคนเมื่อมีอะไรกันแล้วภัคเผยว่าเธอเป็นไบ อีกฝ่ายจึงถอนตัวไปในทันที แต่ก็มี "เฟิร์น" เลสทูที่รู้จักผ่านทางโลกออนไลน์ ผู้ทำให้ภัคหลงรัก ขณะที่เธอเองยังมีความสัมพันธ์กับเอกอยู่
ความผูกพันของทั้งสองคนเกิดขึ้นก่อนช่วงเดือนมกราคม ท่ามกลางเลสที่เข้ามาพูดคุยมากมาย ทั้งแบบเพื่อนและจีบ มีผู้หญิงอยู่คนชื่อ "เฟิร์น" สาวทำงานไว้ 28 ปี ผู้ทำงานในบริษัทเอเยนต์ซี่โฆษณาแห่งหนึ่งที่กรุงเทพ ในข้อมูลเฟซเธอระบุ สนใจทั้งผู้ชายและผู้หญิง
รูปโปรไฟล์เฟิร์น เธอไว้ผมยาวแสกกลาง ทำสีผมน้ำตาลมะฮอกกานี ผมยาวของเธอัดเป็นลอนตามยุสมัยความฮิตชั่วโมงนี้ ใบหน้าขาวและแต่งหน้าแก้มอมชมพู ขนตาเธอแต่งเป็นเส้นหน้าสวยงาม คิ้วแหลมแบบสามมิติ จัดเป็นคนหน้าที่น่ารักพอสมควร แล้วไม่ได้ได้แต่งหน้ามากจนเกินไปนัก เธออยู่ในชุดเสื้อยืดสีดำ สูทผู้หญิงแบบสั้นสีเนื้อ และกางเกงยีนส์ดำ ตามแบบฉบับคนทำงานด้านนี้
ขณะที่รูปโปรไฟล์ภัคเองอยู่ในชุดทำงานของโรงแรม ผมเธอยาวแต่รวมผมไว้ด้านหลัง ใบหน้ายิ้มแย้มปากสีชมพูอวบอิ่ม ใส่ชุดเสื้อสูทผู้หญิงของที่ทำงานซึ่งเป็นสีเทา เสื้อเชิ้ตข้างในสำหรับสุตรีเป็นสีชมพูอ่อน และกระโปรงมินิสเกิร์ตระดับเข่า รัดรูปเล็กน้อย ทำให้เห็นหุ่นที่ผอมเพรียวและค่อนข้างดูดีของเธอ
ทันทีเมื่อภัคเห็นรูปโปรไฟล์ เธอไม่ลังเลขอเพิ่มเป็นเพื่อนเฟิร์น และเมื่อได้เป็นเพื่อนกันในเฟซ ทำให้ภัคสามารถเข้าไปดูรูปต่างๆของเธอได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรูปถ่ายกับเพื่อนๆที่ทำงาน มีทั้งชายและหญิง มองไม่ออกว่าเป็นเลส กระทั่งได้ดูรูปส่วนตัวที่ภัคเห็นเฟิร์นกอดคอกับผู้หญิงสองสามคน ทำให้เธอรู้สึกได้ว่า อาจมีส่วนลึกที่เฟิร์นเป็นเลสได้
"ขอบคุณค่ะที่รับแอด" ภัคคอมเมนท์ไปตรงหน้าแรก ขณะที่เฟิร์นตอบรับ "ยินดีค่า" จากนั้นภัคค่อยๆดูรูปของเธอไปเลยๆ กดไลค์รูปที่เฟิร์นมักถ่ายเดี่ยวๆหรือถ่ายเป็นคู่กับเพื่อนผู้หญิง
"สวยทั้งคู่เลยค่ะ" ภัคคอมเมนท์
"คุณเฟิร์นน่ารักมาก" เธอคอมเมนท์อีกรูปที่เพื่อนๆทำท่าแกล้งหอมเธอ ทำให้ภัคคิดว่าเฟิร์ตอาจเป็นเลสจริงๆก็ได้
"ขอบคุณค่ะ" เฟิร์นคอมเมนท์ตอบ ซึ่งการแลกคอมเมนท์และกดไลค์ของทั้งสองคน เป็นไปอยู่หลายวัน ภัคสังเกตเห็นมีผู้หญิงมาทักหน้าเฟซเฟิร์นแบบหยอกล้อเหมือนเลสบ้างประปราย แต่เธอไม่ได้ใส่ใจ ของแบบนี้ จะมีคนมาจีบเยอะเท่าไหร่ก็ตาม แต่ถ้าจูนตรงกันแล้วใช่ มันก็ใช่!
ช่วงแรก เฟิร์นยังไม่ค่อยตอบข้อความในอินบ็อกมากนัก มีเพียงคำถาม "เฟิร์นเป็นเลสหรือเปล่าคะ" เพียงคำถามเดียวที่เธอตอบ "ใช่ค่ะ เค้าเลสค่ะ ตัวเองล่ะคะ" ภัคตอบ "เลสเหมือนกันค่ะ ยินดีได้รู้จักกันนะคะ"
กระทั่งวันที่ภัคจะเข้ามาดูงานโรงแรมบริษัทแม่ที่กรุงเทพ เธอจึงเสี่ยงนัดเฟิร์นออกมาทานข้าวดู ซึ่งตอนนั้น
"วันเสาร์นี้ ภัคจะเข้ากรุงเทพ คุณเฟิร์นว่างไหมคะ จะขอเป็นเจ้าภาพสักมื้อ"
เฟิร์นเปิดข้อความในอินบ็อกซ์อ่าน ความจริงแล้วเธอก็ถูกใจภัคเช่นกัน แต่ช่วงแรกๆต้องทำเล่นตัวไว้ก่อน เพื่อดูท่าทีอีกฝ่าย แต่แค่กินข้าวแล้วคุยกัน ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว และเธอฉลาดพอที่จะไม่ตกหลุมใครง่ายๆ เพราะเคยมีแฟนเลสมาหลายคนแล้วเช่นกัน
เธอนั่งคิดทบทวนว่าเธอนัดใครไว้หรือยัง และแค่กินข้าวเฉยๆ "เดี๋ยว เฟิร์นขอดูตารางงานแป๊บนะคะว่ามีงานหรือเปล่า"
"ค่ะ" ภัครอด้วยใจจดใจจ่อ
เอเยนซี่โฆษณาสาวไม่ได้มีนัดกับลูกค้าอะไรที่ไหน ทีมีคือการนัดทานอาหารกลางวันกับเลสทูคนหนึ่งที่ชวนเธอคุยมาพักใหญ่ และออกไปดูหนังด้วยกันบ้างแล้ว แต่ยังไม่ถึงขั้นมีอะไรกัน
"ตอนเย็นสักทุ่ม เฟิร์นว่างค่ะ พอดีช่วงกลางวันติดลูกค้า จะมาถึงกรุงเทพกี่โมงคะ" เฟิร์นถาม
"ไปถึงตอนเช้าค่ะ คุณเฟิร์นมีเบอร์โทรศัพท์ไหมคะ จะได้ติดต่อกันสะดวก"
"มีค่ะ" เฟิร์นกับภัคแลกเบอร์กันและเมมไว้ "เดี๋ยวตอนเย็นวันเสาร์คุยกันนะคะว่าไปร้านไหน ว่าแต่คุณภัคขับรถมาเองหรือเปล่าค่ะ จะได้นัดกันถูก"
"ค่ะ ภัคขับรถไปเอง คุณเฟิร์นบอกได้เลยว่าจะให้ไปร้านไหน ไปได้หมดค่ะ" เฟิร์นบอก
"โอเค่คะ ไม่รบกวนเวลาทำงานคุณเฟิร์นแล้ว เกรงใจ" ภัคส่งภาพตัวการ์ตูนยิ้มไปให้
"คุยได้ค่ะ ทักมาได้ตลอดนะคะ ถ้าเฟิร์นไม่ติดงานก็จะตอบทันที แต่ถ้าติดงานอย่าเพิ่งน้อยน้า รอแป๊บ ^^"
"ค่า คนสวยใจดี" ภัคส่งยิ้มตอบ
เหลืออีกสองวันก่อนวันนัดหมาย ภัคกับเฟิร์นคุยกันเรื่องต่างๆมากขึ้น ไม่ว่าเรื่องความชอบเสื้อผ้า การแต่งตัว รสนิยมฟังเพลง สังคม เรื่องจิปาถะ เรื่องเดียวที่หลีกเลี่ยงในการคุยกันคือ "แฟนเก่า"
เมื่อสนิทกันมากขึ้น เวลาคุยไลน์หรือโทรศัพท์กันจึงเหลือแค่คำว่า "เฟิร์น" กับ "พี่ภัค" ไม่มีคำนำหน้าว่า "คุณอีก"
เย็นวันเสาร์ทั้งสองคนนัดกันที่ร้านอาหารใหญ่แถวเรียบทางด่วนรามอินทรา เป็นร้านอาหารหรูบรรยากาศเหมาะกับการพูดคุย เสียงดนตรีเคล้าคลอเบาๆ และเฟิร์นยืนยันว่าอาหารที่นี่อร่อยถูกปากแน่นอน
หนึ่งทุ่ม ภัคมาถึงที่นัดหมาย โดยเฟิร์นจองโต๊ะริมที่มีเทียนไข้ตั้งไว้รอแล้ว ทันทีเมื่อเจอกัน ทั้งคู่ต่างทึ่งในความสวยของกันและกัน เฟิร์นเป็นฝ่ายยุคมือสวัสดีก่อนตามประสาคนอายุน้อยกว่า ทำให้ภัคแทบรับไหว้ไม่ทัน
"โห ไม่ต้องสวัสดีหรอกค่ะ แหม ทำเอาภัคเขินเลย" ภัคเริ่มต้นบทสนทนา เพื่อไม่ให้บรรยากาศการพูดคุยเกร็งกันจนเกินไป
"แหม ก็ต้องสวัสดีนี่คะ เฟิร์นอายุน้อยกว่านี่นา เชิญนั่งคะพี่ภัค"
เฟิร์นมาในชุดดำตามแบบฉบับเอเยนซี่เช่นเคย เพียงแต่เธอเปลี่ยนจากกระโปรงที่ทะมัดทแม่งตอนทำงาน มาเป็นแบบพีซ แล้วเปลี่ยนเสื้อสูท เป็นแบแฟชั่นเล็กน้อย เพื่อให้ดูน่ารักยิ่งขึ้น ขณะที่ภัคมาในชุดทำงาน เพราะเธอเพิ่งไปดูงานตอนบ่ายที่โรงแรมสำนักงานใหญ่
ทั้งสองคนไม่กล้ามองหน้ากันตรงๆมากนักในช่วงแรกด้วยความเขินที่เจอหน้ากันจริงๆหนแรก
"เหนื่อยไหมคะทำงานนี้" ภัคถาม
"เรื่อยๆค่ะ สนุกกับงานมากกว่า เฟิร์นละคะ ขับรถมาต้องไปประชุมอีก คงเหนื่อยน่าดู"
"เหนื่อยแค่ไหน ได้มานั่งทานข้าวกับคนสวยๆอย่างเฟิร์นก็หายเหนือยแล้วล่ะ" ภัคยอดคำหวานให้จนเฟิร์นเขิน
"แหม เล่นชมกันซึ่งๆหน้าเลย" เฟิร์นพยายามเปลี่ยนบทพูด "ชอบทานอะไรคะ เฟิร์นสั่งให้"
"แล้วแต่เฟิร์นเลยค่ะ ภัคทานได้หมด"
"งั้น เอาปลาหมึกทอดไข่เค็ม, ปลากระพงทอด แล้วก็แกงจืดสักอย่างนะคะจะได้มีอะไรเป็นน้ำบ้าง"
ภัคหยักหน้าตอบ "ค่ะ ได้เลย ภัคทานได้ทุกอย่าง"
"เอาน้ำอะไรดีคะ น้ำเปล่า โค้ก เบียร์ หรือว่าจะเปิดเหล้า" เฟิร์นถามนำ ทำให้ภัคเองเริ่มกล้าพูดคุยมากขึ้น
"อืม น้ำเปล่าก่อนดีกว่าโนะ" ภัคยิ้มเล็กๆ "แล้วทานเสร็จ ค่อยตบด้วยเบียร์"
"ตามนั้นค่ะ" เฟิร์นกวักมือเรียกพนักงานมาสั่งของ ระหว่างรออาหาร เธอชวนภัคคุยไปด้วย
"ร้านนี้อย่างไรบ้างคะพี่ภัค" เธอถาม
"โอเคนะ เพลงเบาๆ เหมาะกับการพูดคุย บรรยากาศดีนะคะ" ภัคพูดพร้อมสบตาที่เฟิร์นท่าไอน์ไลน์เนอดูเฉียบคมไปด้วย
"พี่ภัคชอบเพลงแนวไหนคะ คันทรี หรือร็อค หรือสากล"
"ชอบแบบสากลสบายๆแบบนี้แหละค่ะ"
"คุยเก่งนะคะพี่ภัคเนี่ย น่ารักด้วย สาวๆชอบเยอะแน่เลย จะมีสาวตามมาตบเค้าไม้เนี่ย" เฟิร์นแกล้งถามแย่เรื่องแฟนแบบทีเล่นทีจริง
"บ้ามีทีไหน เลสเลิส เฟิร์นต่างหาก สวยขนาดนี้ สาวเยอะแน่"
"ไม่มีหรอกเตง แค่พูดคุยแบบเพื่อนนะ ตอนนี้ยังไม่ได้คบใครเป็นแฟนเป็นตัวจริงๆ" เฟิร์นตอบ ซึ่งความจริงก็เป็นเช่นนั้น เธอยินดีไปกินข้าว ดูหนังหรือเที่ยวได้ เพียงแต่ยังไม่ถึงขั้นตอบรับเป็นแฟนหรือมีอะไรกันเท่านั้น เธอพยายามทิ้งระยะความห่างไว้ เรื่องความสัมพันธ์ เพราะไม่อยากพูดมัดกับใครมาก เกรงว่าจะเคยเจอเรื่องเจ็บเหมือนแฟนที่เคยคบมา และการตอบของเธอทำให้ภัคดูโล่งใจยิ่งขึ้น และแอบยิ้มในใจไปด้วย
การพูดคุยผ่านไปแล้วสองชั่วโมง ถามเรื่องร่าวว่าทำอะไร ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง ดูเหมือนทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ภายหลังออกจากร้านเฟิร์นไปส่งภัคที่รถ ก่อนแยกย้ายไปตามทางของตนเอง ดูเฟิร์นสนใจภัคมากขึ้น ทำสัญญาณมือว่าเดี๋ยวจะโทร.หา ภัคทำนิ้วบอกโอเค
ค่ำคืนนั้น ภัคอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยกำลังเข้านอนที่โรงแรม เฟิร์นก็โทร.มาคุยต่อ จนเวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืนกว่า โดยเฟิร์นชวนภัคไปเดินช็อปปิ้งวันอาทิตย์รุ่งขึ้น ภัครีบตอบตกลงทันที แต่ขอเป็นช่วงบ่ายเนื่องจากต้องประชุมสัมนาตอนเช้าก่อน
มันเป็นช่วงเย็นที่ภัคกับเฟิร์นดูปช็อปปิ้งด้วยกัน ก่อนลงความเห็นว่าควรดูหนังด้วยกันสักรอบ ภายในโรงหนังภัคแกล้งเอานิ้วมือไปโดนมือเฟิร์น เธอไม่ได้ปัดป้องอะไร เฟิร์นจึงยื่นกุมมือเฟิร์น แม้ว่าทั้งสองคนไม่ได้หันมามองหน้าแต่ แต่สื่อสัมพันธ์ผ่านทางมือเสมือนบ่งบอกว่า เราเข้ากันได้ดี
ภัคต้องขับรถกลับระยองเลย ทำให้ใจเธอหวิวๆ เธอรู้สึกโดนใจในตัวเฟิร์นอย่างมาก ขณะที่อีกฝ่ายถูกชะตาเช่นกัน จากการเล่นเฟซและไลน์ เลยกลายเป็นการโทร.คุยกันวันละเป็นชั่วโมงๆ และส่งข้อความหากันตลอด
ปกติแล้ว ภัคไม่ได้เข้ากรุงเทพบ่อยนัก และวันหยุดเธอมักเป็นวันพฤหัสบดี เนื่องจากศุกร์กับเสาร์ ลูกค้าจะเข้าเยอะ ความคิดถึงของภัคทำให้เธอขอมาเลี้ยงข้าวเฟิร์นทันที ทั้งที่เพิ่งห่างกันแค่ 3-4 วัน หนนี้ เธอจูงมือเวลาเดินเที่ยวเล่นกัน ก่อนทานข้าวเย็นและดื่มเบียร์กันเล็กน้อย เมื่อภัคจะขอตัวกลับระยอง เฟิร์นคว้ามือไว้ตอนไปส่งที่รถ และหอมแก้มภัคทันที
"เฟิร์นชอบเตงนะ" เธอบอก ทำให้ภัคยิ้มเขิน "ค่อยกลับพรุ่งนี้ได้ไหม คืนนี้เฟิร์นอยากเที่ยวต่อ"
ภัคไม่ลงเลคำเชื้อเชิญของอีกฝ่าย เพราะเธอทราบดีว่า ห้วงอารมณ์นี้ เฟิร์นต้องการอะไร และเธอพร้อมสนองตอบเต็มที่ งานที่โรงแรมในวันรุ่งขึ้นเธอก็คงโทร.ไปบอกหัวหน้าขอลาครึ่งวันก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร
"ไปได้ แต่ขอให้ภัคเลี้ยงนะ" ภัคตอบคำรับเชิญ โดยเฟิร์นขอกลับไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนค่อยเจอกันใหม่ตอนค่ำ ภัคเองก็ต้องหาโรงแรมพักคืนนี้เช่นกัน
โดยปกติ คู่เลสหากนัดกันทานข้าวเมื่อไหร่และโดนกัน ไม่ต้องใช้เวลาให้ถึงเดือนสองเดือน เพื่อสานความสัมพันธ์กันแนบแน่นต่อจากนั้น บางคู่ภายหลังคุยโทรศัพท์ เฟซ ไลน์ เห็นหน้าค่าตากันในโลกออนไลน์กันมาก่อนแล้ว เจอหนแรกอาจมีความสัมพันธ์กันทันที เฟิร์นกับภัคไม่ต่างกัน ช่วงเวลาสี่วันหลังจากเจอกันหนแรก ทั้งสองคนมอบความรักให้แก่กันอย่างถนุถนอม ความเป็นเลสทูเหมือนกัน ทำให้ต่างฝ่ายต่างถ่ายทอดอารมณ์ให้แก่กัน ไม่มีหยุด จนถึงทางแห่งสวรรค์พร้อมกันหลายครั้งหลายครา ผลัดกันรุกและรับเหมือนขาดหารสชาติแห่งปรารถนามานานนัก มันคืนที่ทั้งคู่อิ่มเอมในความรักอย่างไม่มีที่สิ้นสุด และตกลงคบหากัน
เมื่อถึงวันหยุด ภัคจะขับรถเข้ามากรุงเทพตั้งแต่เช้า ซึ่งหนหลังๆ เฟิร์นให้ภัคไปเที่ยวที่ห้องของเธอ และเสพสุขความรักกันจนถึงราตรี ก่อนเสพสุขความรักกันจนถึงราตรี จากนั้นภัคจะนอนพักเอาแรง เพื่อขับรถกลับไประยองตอนรุ่งเช้า โดยภัคขอแลกเวรอยู่โรงแรมเป็นช่วงเย็น เพื่อมีเวลาอยู่กับแฟนสาวนานที่สุด ไม่ต้องเร่งรีบกลับไปทำงานตอนเช้า
แต่แล้ว ภัคเองก็ต้องเจอกับทางแยกที่ต้องตัดสินใจว่าจะเลือกใคร ระหว่าง เอก แฟนชาย กับ เฟิร์น เมื่อเอกขอแต่งงานกับเธอในวันวาเลนไทน์ เอกมีการงานดี และทั้งสองคนเคยคุยไว้การวางแผนชีวิตร่วมกัน ปลูกบ้านอยู่ด้วยกัน ในที่สุดภัคตอบตกลงไป ปัญหาที่ตามมาคือเธอจะเปิดเผยความจริงกับเฟิร์นอย่างไร
ในวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ถัดมา ภัคขอเปลี่ยนบรรยากาศพาเฟิร์นไปโรงแรมหรูในกรุงเทพ เธอพร้อมโดนตำหนิและยอมให้เฟิร์นต่อว่า หรือทำร้ายเธอก็ได้ เพราะภัครู้ว่าผิดที่ไม่ยอมบอกความจริงแก่เธอแต่แรก ซึ่งก็เหมือนเลสไบทั่วๆไปที่มักปิดบางเรื่องแฟนชายไว้ เนื่องจากเลสหลายคน ไม่ชอบที่อีกฝ่ายเป็นเลสไบ
"เฟิร์น ภัคมีเรื่องอยากบอกเฟิร์น ภัคอึดอัดใจมานานแล้ว เฟิร์นจะต่อว่าภัคหรือตบตีภัคก็ได้นะ ภายหลังฟังเรื่องนี้แล้ว" ภัคทำหน้าเครียดและซึมๆ
เมื่อทั้งคู่นั่งดื่มในร้านอาหารลอยฟ้าชั้นบนของโรงแรม ขณะที่เฟิร์นเอง น้ำตาเริ่มซึม เธอเคยมีประสบการณ์ถูกแฟนเลสบอกเลิกมาแล้วหลายคน บางครั้งเธอเองเป็นฝ่ายบอกเลิกก่อน เธอตระหนักดีว่าเลสมิได้คบกันจีรังยั่งยืนอยู่แล้ว ไม่วันใดวันหนึ่งก็ถึงคราวต้องแยกทางน้อยนักจะอยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า ตอนนี้เธอพร้อมเผชิญหน้ารับคำสารภาพของภัคแล้ว "ว่ามาสิ"
เฟิร์น นิ่งอยู่นาน พยายามรวบรวมความกล้าที่จะพูด
"เอ่อ..อา คือ"
"เตงพูดมาเหอะ เค้ารับได้อยู่แล้ว เค้าคบแฟนเลสมากี่คนแล้ว เจอหมดทุกรูปแบบ" เฟิร์นอยากให้ภัคเผยความในใจโดยเร็วและไม่ต้องลังเล
"ภัคจะแต่งงาน" เธอบอกเพียงสั้นๆ แต่ทำให้เฟิร์นถึงกับนิ่งอึ้งไปนาน และน้ำตาค่อยๆไหลรินจากตาทั้งสองข้าง และนิ่งเงียบไม่พูดอะไรอีก
"ภัคขอโทษได้ไหม เฟิร์นจะต่อว่าอะไรภัค เค้ายอมทุกอย่าง ขอเพียงภัคได้ขอโทษเฟิร์น"
เฟิร์นเอากระดาษมาเช็ดน้ำตา มันไม่ใช่หนแรกที่เลสขอบอกเลิกกับเธอ หลายคนมีวิธีบอกเลิกต่างกันไป บ้างหายไปเองเฉยๆ บ้างที่เธอจับได้ว่านอนกับเลสคนอื่น บ้างเธอขอเลิกเอง หนนี้ต่างกันตรงที่คนที่เธอรักถึงขั้นจะแต่งงาน และอาจหายไปจากชีวิตเธอเช่นเดียวกับแฟนเก่าที่ผ่านๆมา
ภายหลังเฟิร์นหายช็อค เธอรวบรวมสติแล้วถามเสียงแข็ง "แล้วต่อไปเราจะเป็นอย่างไร ต้องเลิกกันใช่ไหม"
"ภัครักเฟิร์น ไม่อยากเลิก ถ้าเลือกได้ ภัคอยากเจอเฟิร์นก่อน แล้วไม่คบใครอีก แต่ภัคต้องแต่งงาน ภัคอยากให้เฟิร์นได้เจอคนใหม่ ไม่อยากทำให้เฟิร์นเสียใจอีก"
"เฟิร์นไม่ว่าหรอกนะ ถ้าภัคจะขอเลิกเพื่อไปแต่งงาน แต่เฟิร์นรักภัคเสมอ อนาคตเราก็อาจเป็นเพื่อนกัน หรือพี่น้องกันได้ เฟิร์นไม่ทำอะไรภัคหรอก มิใช่ครั้งแรกหรอกที่เฟิร์นเจ็บ"
ภัคเหมือนโล่งอกเล็กน้อย ที่เฟิร์นยังไม่เกลียดเธอถึงขั้นรุนแรงขนาดนั้น บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเชียบอยู่นาน จนเฟิร์นเอ่ยขั้นอีกครั้ง
"พี่ภัคขึ้นไปนอนพักผ่อนเถอะ เดี๋ยวเฟิร์นไปส่ง" คำบอกของเฟิร์นทำให้ภัคเข้าใจว่าเฟิร์นคงอยากกลับบ้านแล้ว
เมื่อขึ้นไปถึงห้องพักในโรงแรม ภัคเปิดประตูเข้าไปในห้อง เฟิร์นไม่ได้เดินตามเข้าห้องไป เธอยังคงอยู่ที่ประตูและพยายามมองหน้าภัค แต่อีกฝ่ายไม่กล้าจ้องหน้าตอบ เพราะอายที่ตนเองผิดกับแฟนสาว
แม้เฟิร์นรู้ความจริงแล้วว่า ภัคเป็นเลสไบ แต่ในสายตาของเฟิร์น ภัคคือคนที่กล้าที่สุด กล้าที่จะตัดสินใจแต่งงานกับแฟนชายทั้งที่เธอเป็นเลส กล้าพูดความจริง ในแบบนี้แฟนเลสคนเก่าๆของเธอ ไม่กล้าพูด ได้แต่หันหลังหนี ในอนาคต เฟิร์นเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่า ตนเองต้องแต่งงานด้วยหรือเปล่า เพราะในโลกของเลส ท้ายสุดมีไม่น้อยที่ตัดสินใจแต่งงาน แต่ก็แอบรักแฟนเลสไปด้วย เหมือนเช่นที่เธอเคยอ่านในโลกออนไลน์และคุยกับเพื่อนๆ ทว่าเธอไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเธอ
เลสมากมายปฏิเสธการมีอะไรกับเลสไบ เพราะเธอกลัวความไม่สะอาด กลัวโรค หรือไม่อยากมีความสัมพันธ์ผ่านทางช่องลึกลับด้วยกัน แต่สำหรับเฟิร์น การที่ภัคกล้าแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น แสดงว่ามั่นใจในความซื่อสัตย์และความสะอาดของแฟนเธอแล้ว เธออยากมีอะไรกับภัคอีกครั้ง และอาจเป็นหนสุดท้ายก่อนจะเลิกรากันไป
"เฟิร์นขอถามอะไรพี่ภัคหน่อย"
"ค่ะ" ภัคตอบ "เฟิร์นอยากถามอะไร ภัคจะตอบความเป็นจริงทุกอย่าง ไม่ว่าเรื่องไหนก็ตาม"
"ตอนพี่ภัคมีอะไรกับแฟนชาย แฟนพี่ภัคป้องกันไหม" เธอพยายามถามแบบอ้อมๆ
"ป้องกันคะ เขาใส่ถุง และภัคขอให้เขาตรวจเลือดมาแล้ว ซึ่งไม่ได้เป็นอะไร" ภัคบอกตามความเป็นจริง
"ถ้างั้นเฟิร์นขอกอดเป็นหนสุดท้ายได้ไหมคะ"
ภัคเอื้อมมือจูงเฟิร์นเข้าไปในห้องแล้วล็อคห้อง ก่อนโอบกอดเธออย่างแนบแน่น ความรู้สึกของเฟิร์นยังไม่อาจตัดขาดภัคได้ในวันนี้และเดี๋ยวนี้ เธอมองหน้าภัคอีกครั้งแล้วจูบริมฝีปากเบาๆ
"เฟิร์นขอคืนนี้เป็นคืนสุดท้ายได้ไหม อยู่กับเฟิร์นนะ" ความปรารถนาของเธอสั่งหัวใจให้เธอร้องขอภัคในสิ่งนั้น
"เฟิร์นแน่ใจนะ" ภัคถาม เมื่อเฟิร์นพยักหน้า เธอจูบตอบ และถอดเสื้อของตัวเองออกหมด ปล่อยให้เฟิร์นรุกเร้าอย่างอิสระ และมันไปจบลงบนเตียงนอนอันแสนนุ่มนวล ทั้งสองคนเปล้องผ้าหมดทุกสัดส่วน และปลดปล่อยความรักให้แก่กันอย่างเปี่ยมล้น นี่อาจเป็นคืนแห่งความสุขที่เคล้าคลอด้วยความเศร้าไปพร้อมกัน เมื่อถึงจุดสุดยอดปลายทางด้วยกัน เป็นคืนแรกที่ทั้งสองคนร่วมกันเพียงหนเดียว ต่างจากเดิมซึ่งรุกและรับผลัดกันหลายครั้งหลายหน เฟิร์นใส่เสื้อผ้าแต่งตัวและเดินออกจากห้องโดยไม่มีคำกล่าวลาใดๆต่อกันอีก
...
ภัคกลับไประยอง และพยายามตัดใจไม่โทร.หา ระหว่างนี้เธอกับเอกกำลังหารือกันเกี่ยวกับพิธีและกำหนดงานแต่งงาน คาดว่าคงเป็นช่วงอีกราวครึ่งปีข้างหน้า เมื่อทุกอย่างพร้อมและลงตัวในที่สุด
แต่ระหว่างนี้ ใจภัคเหมือนยิ่งคิดถึงเฟิร์นหนักขึ้นกว่าเก่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังเปิดเผยความจริงล่าสุด ทำให้ทั้งคู่ไม่กล้าจะโทรศัพท์หรือไลน์เอ่ยปากพูดก่อน เพราะกลัวความรู้สึกอีกฝ่ายจะเปลี่ยนไป
วันพฤหัสในสัปดาห์ต่อมา ภัคไม่ได้ตัดสินใจจขับรถไปกรุงเทพอีก แต่ความเคยชินและความคิดถึงเฟิร์นอย่างมากจนเหมือนขาดอะไรอย่างหนึ่งไปในชีวิต ทำให้ภัครวบรวมความกล้า โทรศัพท์ไป ใจหนึ่งก็ตื่นเต้นไปด้วย ไม่รู้จะได้รับคำตอบอย่างไร
"สวัสดีค่ะ พี่ภัค" เฟิร์นรับสายอย่างรวดเร็วไม่ทันถึงสองกริ๊ง
"สวัสดีจะ เฟิร์น เตงสบายดีไหม" ภัคถามหยั่งเชิงก่อน
"เรื่อยๆ ไม่ได้คุยกับพี่ภัคแล้วเหงาๆอย่างบอกไม่ถูก" เฟิร์นยังรู้สึกห่วงหาอาวรภัคอยู่มาก "เตงจะมาหาเค้าไหมวันนี้ ถ้าเตงอยู่กับแฟนไม่เป็นไรนะ"
"เค้าคิดถึงเฟิร์นมากนะ เตงไม่โกรธเค้าหรอที่เค้าทำกับเตงแบบนี้" ภัคบอก
"ไม่รู้อ่ะ เค้ารักเตงนะ เค้าไม่สนหรอกเตงจะเป็นไบหรือเปล่า เคา้เคยเจ็บหนักกว่านี้ แฟนเลสเก่าคนหนึ่ง ไม่เคยพูดความจริงกับเฟิร์นเลย ตอนเลิกก็หายไปเฉยๆ"
"สำคัญคือพี่ภัคยังรักเฟิร์นอยู่หรือเปล่า"
"รักสิถามได้ ถ้าเตงยอมรับสถานะเค้าได้ ภัคแต่งเพราะที่บ้านต้องการให้มีครอบครัว และเอกเค้าก็ดูแลดี แต่ถ้าเรื่องแบบนั้น เค้ารู้สึกกับผู้หญิงด้วยกันมากกว่านะ"
"สัญญาได้ไหมว่า ต่อให้พี่ภัคแต่งงานแล้วก็จะรักเฟิร์นอยู่" เฟิร์นพูดความรู้สึกตัวเองออกมาและอยากถามแฟนสาวด้วยใจ
"สัญญาสิที่รัก วันนี้อยากกินอะไรใหม่ เดี๋ยวซื้อไปฝาก" ภัคตอบ
"เตงซื้ออะไรมาเค้ากินได้หมดแหละ เฟิร์นจะรอนะ"
เรื่องเฟิร์นกับภัค ยังคงดำเนินต่อไป และมีคู่เลสไม่น้อยที่เป็นแบบเธอทั้งสองคน อีกฝั่งมีแฟนชาย และมีความสัมพันธ์กับเลสไปด้วย หากอีกฝ่ายยอมรับได้ในความเป็นเลสไบของเธอ ก็ไม่มีอะไรปิดกั้นความรักและความสัมพันธ์ของคู่เลสได้อีกต่อไป แม้ว่ามันเป็นความลับที่มิอาจให้ใครรู้ได้
ทุกวันนี้ภัคยังคงไปมาหาสู่เฟิร์นเสมอ แม้ว่าผ่านพ้นพิธีวิวาอาห์กับเอกไปหลายเดือนแล้วก็ตาม...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้นะคะ