วันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
ผู้หญิงที่ไม่ผูกมัด
ผ่านพ้นจากความเศร้า ฉันกลับมาทำงานได้อย่างเดิม และกลับไปอยู่พักหอพักแถวมหาวิทยาลัยกับมีน น้องรูมเมทที่เป็นดี้เลส ฉันเริ่มแอดเพื่อนในเฟซและไลน์จากเพื่อนเลสของน้องมีน ซึ่งเธอไม่ขัดข้อง แต่ย้ำเตือนฉันว่า บางคนก็ต้องระวัง เพราะมีเลสประเภทไม่ผูกมัด คือคบกันแค่อยากมีอะไรกันเท่านั้น ไม่มีความชอบหรือรักแต่อย่างใด เป็นเพียงความต้องการเรื่องนั้นอย่างเดียว
ฉันได้รู้จักกับ "น้ำหวาน" ซึ่งเธอบอกว่าคบได้ทั้งเลสดี้ และชาย เลยทำให้ฉันงงเข้าไปอีก แบบนี้จะเรียกไบหรือแบบไหนกัน ประสบการณ์ของเธอทำให้ฉันรู้ซึ้งถึงโลกของเลสมากขึ้น เราคุยกันในทุกเรื่อง จนกระทั่งสนิทกันพอสมควร และชวนกันไปเที่ยวปาร์ตี้เลสในผับแห่งหนึ่ง โดยเธอก็มีเลสที่นัดหมายกันไปเที่ยวด้วย ฉันเองก็ชวนพี่อรไปเป็นเพื่อนด้วย โดยเราไปกันในคืนวันเสาร์ หลังเลิกงานตอนตีหนึ่งแล้ว
หวานบอกว่า เพื่อนเลสที่พาไปชื่อ "น้ำ" โดยรู้จักกันเพราะญาติแนะนำให้ และเธอก็แกล้งคุยกับฉันว่า สงสัยคืนนี้คงยาว เพราะเจ้าหล่อนค่อนข้างหื่นไม่เบาทีเดียว แต่หวานเองก็บอกกับฉันว่า ยังมิใช่แฟนแน่นอน และนี่มิใช่คนแรกที่หวานมีความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด
"หวาน" ทำงานบริษัทแห่งหนึ่ง เธอไว้ผมสั้นยาวแค่ไหน ไม่ถึงขั้นสวยแต่จัดว่าน่ารัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลายิ้ม หุ่นเธอดีมากเอวแค่ 24 เท่านั้น และขายาวสูงราว 160 เศษ
ความเป็นคนน่ารักทำให้มีคนมาชอบหวานเยอะทั้งชาย หญิง ทอม เลส หนึ่งในคนที่เธอมีความสัมพันธ์ด้วยเป็นเพื่อนเธอเองชื่อ "เหมียว" ทำงานในบริษัทเดียวกันซึ่ง หวานก็เล่าให้ฟังว่าเธอเคยคบทอม กับผู้ชายมาก่อน ความที่ทั้งสองคนทำงานในแผนกเดียวกัน เลยได้คุยกันบ่อย ตอนพักก็กินด้วยกัน เลิกงานบางทีก็ไปหาอะไรแวะรับประทานก่อนกลับบ้าน หรือไปนั่งจิบเบียร์กัน เวลาไปผับก็กอดคอดหรือเต้นอะไรสนุกสนานกันไป
เหมียวเองก็เคยมีแฟนชายมาก่อน ความที่เหงาและกลัวการคบคนใหม่ ทำให้ได้หวานเป็นเพื่อนสนิท คุยกันรู้ใจกันทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องบนเตียงก็เปิดใจคุยกันเต็มที่เวลาคุยไลน์หรือเฟซกันที่บ้าน ส่วนในบริษัทก็จะทำหน้าที่การงานของตนเต็มที่ ไม่มีการคุยนอกเรื่องเท่าไหร่นัก
แล้วเย็นวันหนึ่งเป็นจุดเริ่มของความสัมพันธ์ลึกซึ้งของเหมียวกับหวาน แม้ว่าในใจของเธอทั้งคู่เป็นเพื่อนกันขนานแท้ก็ตาม
"หวาน ถามจริงๆ ตอนนี้คบใครอยู่ ทอม หรือชาย" เหมียวส่งไลน์เข้าไปในมือถือหวาน ขณะใกล้เลิกงาน
"ยังเลย" หวานตอบก่อนทักต่อ "แล้วเธอมีชายมาจีบบ้างยัง"
"ก็มีบ้าง แต่ยังไม่โดนเท่าไหร่" หวานตอบตามความเป็นจริง "เย็นนี้ไปกินเบียร์กันไหม พรุ่งนี้หยุด จะได้สนุกได้เต็มที่"
"เอาสิ สิ้นเดือนด้วย ต้องฉลองหน่อย ฮ่า ฮ่า" เพื่อนสาวไม่ปฏิเสธ "แต่เลิกงานเพิ่งจะห้าหกโมงเย็นเอง ไปไหนกันก่อนดีอะ"
"เราไปหาไรกินแถวห้างกันก่อนดีมะ เดินเล่นกัน ตอนเย็นๆค่อยไปผับ" หวานชวนต่อ
"โอเช เดี่ยวเลิกงาน หวานรอหน้าตึกนะ"
ทั้งสองคนหุ่นทะมัดทะแม่ง หวานอาจไม่สวยมาก แต่ก็พอดูได้ เหมียวไว้ผมยาว ใส่เสื้อเชิ้ตแบบผู้หญิงสีขาว กระโปรงน้ำเงินสั้นเหนือเข่าเล็กน้อย ใส่ส้นสูงเวลาเดินดูน่ารักและเซ็กซี่เล็กๆ หุ่นดีไม่แพ้กัน สูงราว 160 อย่างน้อยหุ่นของเธอดึงดูดสายตาทอม และผู้ชายได้ดีทีเดียว ขณะที่หวานเองไว้ผมสั้น เวลาพูดอาจดูห้วนๆ ทะมัดทะแมง แต่เวลาใส่ชุดออฟฟิศแล้วก็น่ารักทีเดียว เธอใส่เสื้อเขียวอ่อนแบบเสื้อเชิ้ตผู้หญิงรัดรุปเล็กน้อย ไม่บางมาก ใส่กระโปรงสีดำสั้นกว่หวานเล็กน้อย เพื่อการเดินหินที่สะดวก สมกับงานเธอที่ต้องประสานงานฝ่ายอื่นบ่อยๆ แต่หวานจะใส่แค่คัทชูส้นเตี้ยเพื่อการเดินที่คล่องกว่า
ความจริงอีกอย่างที่เหมียวไม่รู้คือ หวานไม่เคยบอกว่า เธอชอบมีไรกับเลสแบบไม่ผูกมัดด้วย แต่ก็มิใช่แบบเจอหน้าแล้วมีไรกันเลย ส่วนใหญ่มาจากการคุยกันได้สักพักใหญ่จนกระทั่งเปิดใจกัน และจบลงด้วยความสัมพันธ์ขั้นสุดท้าย
.....
เวลาทุ่มครึ่ง ภายหลังทั้งคู่กินข้าวและเดินเล่นกันนิดๆหน่อยๆแล้ว จึงตกลงกันไปผับแถวรัชดาภิเษก ซึ่งสามารถนั่งรถไฟฟ้าไปถึงได้โดยง่าย และกลับไม่ลำบากนัก
เมื่อไปถึงก็ตกลงราวสองทุ่มกว่าๆ หวานเริ่มสั่งเบียร์มากินเบาๆพร้อมกับแกล้มและพุดคุยกัน
"ร้านนี้ บรรยากาศโอเคนะ" เหมียวเริ่มชวนคุย "หวานปกติเที่ยวกินเบียร์ไรแบบนี้บ่อยไหม"
"ก็บ่อยนะเวลาเงินเดือนออก ไว้ค่อยกินมาม่าทีหลัง ฮ่าฮ่า" หวานพูดติกตลกไปด้วย
"เอ้าชนแก้วหน่อย" ทั้งสองคนชนแก้วกันก่อนที่เหมียวเริ่มถามต่อ
"หวาน ยังไม่มีแฟนจริงๆอ่ะ เตงน่ารักนะ น่าจะมีคนชอบเยอะ" เหมียวเกริ่นนำถึงเรื่องความรัก
"ยังไม่เจอคนที่ใช่อะตัว จะทอมหรือชาย หรือเลส จะคบกันมันก็ต้องใช่ จูนตรงกัน หลายๆอย่างนะ ถึงจะกลายเป็นความรักได้" หวานบอก
"เหมียวไม่กล้ามีแฟนทอมหรือเลสอ่ะ มันจะเหมือนกันคบชายป่าวเตง" หวานเริ่มคุยลื่นขึ้นภายหลังดื่มเบียร์ไป 2-3 แล้วและเริ่มตึงๆ กล้าคุยเรื่องส่วนตัวมากขึ้น
"ถ้าเรื่องความรัก หวานว่ามันก็ไม่ต่างกันนะ อยู่ที่ความชอบของแต่ละคน แน่นอนว่า ท้ายสุดความรักต้องมีเซ็กซ์เป็นส่วนประกบ คงไม่มีคู่ไหนหรอกนะในโลกนี ที่รักกันโดยไม่เคยมีอะไรกันเลย โลกอย่างกับในละคร คบกันเป็นแฟนสองสามอาทิตย์ก็ได้กันหมดแล้ว ใครจะรอกระทั่งแต่งงานล่ะ" หวานร่ายยาว
"แล้วเหมียวทำไมเลิกกับแฟนล่ะ"
เหมียวครุ่นคริดถึงเหตุผลที่เลิกกับแฟนชายคนก่อน และยังไม่กล้ามีใครอีก "ด้วยเรื่องของเวลามั้ง ตอนอยู่บริษัทเดียวกันก็เจอกันบ่อย แต่พอย้ายไปที่อื่นค่อยๆห่างกัน แล้วหลายอย่างไม่เข้ากันนะ เรื่องความคิด และอะไรหลายอย่าง บางทีก็ทะเลาะกัน"
"ทะเลาะกันก็มีบ้าง หึงหวงอะไรกันบ้าง เรื่องปกติของคนรักน่ะเตง" หวานให้ทัศนะ "แต่ท้ายสุดหากทัศนะคติไม่ตรงกัน ต่างฝ่ายต่างพร้อมใจที่จะตกลงยุติความสัมพันธ์แบบคนรักได้หรือเปล่า อย่างชาวต่างชาติ ต่อให้แต่งงานแล้ว แต่ถ้าอยู่กันไปแล้วทัศนะคติไม่ตรงกัน เขาก็พร้อมเลิกกันโดยง่าย ไม่เหมือนสังคมบ้านเรา ที่มุ่งเกาะติดกับคนรักว่าเขาต้องอยู่กับเราตลอดไป แต่ละคนไม่กล้าเปิดทางให้ตนเองไปพบสิ่งใหม่ๆ"
"จริง เหมียวเองก็พยายามปรับความเข้าใจกับเขานะ จริงอยู่ที่คนเรารักกันชอบกัน คบกันก็ต้องมีสุขและทุกข์มีทะเลาะกันบ้าง แต่เหมือนพอเราโตขึ้น มุมมองการใช้ชีวิตของเราเริ่มห่างกันไปเรื่อยๆ จนระยะหลังเราเหมือนแทบไม่ได้คุยกันเลย ความอึดอัดทำให้เขาเปิดใจกับเหมียวว่า อยากมุ่งมั่นกับงานก่อน และให้แต่ละคนถอยกลับไปคิดคนละก้าวถึงทางเลือกชีวิตตัวเอง"
เหมียวเล่ายาว "เหมียวยังรักเขาอยู่นะ พยายามอยากให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาเองก็เคยคิดแบบนั้น แต่ท้ายสุดพอไม่ได้เจอกันนานๆ มันก็เหมือนความสัมพันธ์เริ่มเบาบางลง และเขาเองก็คงอยากมีแฟนใหม่ แต่เหมียวเองเหมือนวูบไปเลย เพราะนอกจากเขาแล้ว เหมียวไม่เคยมองใครอื่นจริงๆ พอเลิกกิันไปเหมือนอะไรมันโหวงเหวงไปหมด"
"แล้วตัวมีทอม เลส ไรมาจีบบ้าง นอกเหนือจากผู้ชายที่เค้าเห็นมาเต๊าะๆทุกวันเนี่ย" หวานสะกิด
"ก็มีทอมมาคุย ส่วนผู้หญิงที่มาคุย ไม่รู้เลสหรือเปล่า เหมียวเองไม่เคยเป็นเลสเลยไม่รู้ไง" เหมียวทำคิ้วขมวดเข้าหากัน "ไม่รู้เหมือนกันทำไมเค้ามาคุยกับเรา ทั้งที่เหมียวเองก็เคยเป็นดี้อะไรมาก่อน"
"แล้ว หวานไม่คิดคบใครจริงจังบ้างหรือ"
"อย่างที่บอก ตอนนี้ยังไม่มีใครโดน ก็มีคุยๆบ้าง แต่หวานยังไม่อยากผูกมัดน่ะ"
"ผูกมัดมันเป็นยังไงอ่า" เหมียวยังคงสงสัย
"ก็มีไรกันเฉยๆ แต่ไม่ได้คบเป็นแฟนยาว ไม่ได้มีความรักอะไรต่อกันแบบคู่รัก" หวานเผย
"แล้วมันจะมีอารมณ์กันหรอ ไม่ได้เป็นแฟนกันน่ะ" เหมียวอยากรู้ต่อไปอีก
"เป็นได้สิ คนเรามีความต้องการเรื่องเซ็กซ์ด้วยกันทั้งนั้น แค่เราจูนกันถูกคน ก็สามารถมีอะไรกันได้ ยิ่งเป็นเลสด้วยล่ะก็ เค้าบอกเลยว่า มีเลสคบแบบไม่ผูกมัดเยอะมาก ความที่เลสมีความต้องการสูงด้วยกันอยู่แล้ว ผู้หญิงเหมือนกัน จับต้องสัมผัสกันง่าย มันเลยพาไปสู่จุดนั้นได้ยังไงล่ะ"
"อ้อ" เหมียวคิดขณะที่เธอเริ่มเคล้มๆไปกับเบียร์และเริ่มเมามากขึ้น เพราะคุยไปจิบเบียร์ไปตลอดจนหมดไปคนละ 6-7 แก้วแล้ว เสียงเพลงในผับก็ดึงขึ้น เพราะคนเริ่มมาเยอะ ทำให้ดีเจเปลี่ยนเพลงมาเป็นจังหวะแดนซ์มากขึ้น หรือเวทีนักร้องขึ้นเวทีเสียงเพลงก็กระหึ่มจนคนที่นั่งโต๊ะเดียวกัน ยังได้ยินเสียงกันยาก หากนั่งตรงข้ามกัน
"แล้วเหมียวไม่อยากลองคบเลสดูหรอ" หวานลองแย็บถาม
"ไม่รู้สิ กล้วคบไปแล้ว ถึงขึ้นมีอะไร อาจไม่ใช่" เหมียวพูด แต่หวานเองก็ไม่ค่อยได้ยินนัก
"เตงมานั่งฝั่งเดียวกับหวานสิ จะได้คุยกันง่ายมันไม่ค่อยได้ยิน" เหมียวขยับมานั่งด้านเดียวกับหวาน จนแขนของทั้งคู่เบียดกัน หรือบางทีขาก็โดนกันด้วย แต่เหมียวเองไม่ได้รู้สึกอะไรในตอนนี้ แต่เป็นหวานที่แอบมองต้นขาเหมียวบ่อยๆ เพราะเวลาใส่กระโปรงสั้น ตอนนั่งมันจะร่นขี้นมาเรื่อยๆ บางทีถึงโคนขา หากไม่ขยับดึงลงไปบ้าง
เหมียวเองก็มองขาของหวานเช่นกันซึงใส่กันกว่ามาก แต่ความเป็นผู้หญิงและเป็นเพื่อนกัน จึงไม่ได้คิดปกปิดอะไร จะบังก็แค่เอากระเป๋าเงินมาวางไว้บนตักกันโป๊ และคนโต๊ะอื่นเห็นเท่านั้น แต่ถ้านั่งติดกันแบบนี้จะเห็นถึงโคนขาทีเดียว
ความที่นั่งเก้าอี้ติดกัน บางทีตอนชนแก้ว หรือคุยกันใกล้ๆ สะโพกก็เบียดโดนกัน หน้าอกถูแขนอีกคนบ้าง บางช่วยทำให้หวานเกิดความวาบหวิวเล็กๆ เลยลองจับมือเหมียวดู ซึ่งเหมียวก็ดูเริ่มเคลิ้ม เพราะเรื่องต่างๆที่หวานเล่าให้ฟังด้วยเวลามีอะไรกับเลส
"เวลามีอะไรกับผู้หญิงด้วยกัน ทำไงกันบ้าง อยากรู้" เหมียวถามขณะหันไปสบตาหวานใกล้ๆ
"ก็เหมือนชายกับหญิงนั่นแหละ เพียงแต่ผู้หญิงไม่มีไอ้นั่น" หวานเริ่มคุยภาษาชาวบ้าน เพราะขี้เกียจใช้คำอ้อมๆ "จูบปาก นม หญิงกับชายก็ใช้ไอ้นั่น ส่วนเลสก็ใช้อย่างอื่น"
"ใช้ไรหรอ" เหมียวถามจี้
"ให้พูดตรงๆหรอ" หวานลังเลจะบอก
"บอกเลย อยากรู้ พูดตรงๆเลย" เหมียวคะยั้นคะยอ
"เลสก็ใช้นิ้วให้กัน เหมือนเวลาเราช่วยตัวเอง" หวานตอบแบบหน้าแดงเล็กๆ เหมียวเองก็เช่นกัน
"ผู้ชายชอบให้ผู้หญิงออรัลให้ แล้วผู้หญิงด้วยกันทำไงอ่ะ" เหมียวยังพยายามคาดคั้นต่อไป เพราะความอยากรู้อยากเห็น
"ออรัลเหมือนกันคือใช้ลิ้น นั่นน่ะทีเด็ดเลยล่ะ เชื่อไหมล่ะ" หวานแกล้งหัวเราะใส่ ขณะที่เหมียวดูเขินๆ "เวลาเตงมีไรกับแฟน เตงออรัลให้เขาด้วยหรอ" หวานชักเคลิ้มและเริ่มยิงคำถามใส่บ้าง
"อื้อ" เหมียวตอบแบบเขินๆ แล้วหวานล่ะ
"มีบ้าง แต่หวานไม่ชอบเอ็นนะ ไม่ชอบออรัลให้ผู้ชายเลย แต่ถ้าผู้หญิงด้วยกันขอให้บอก ฮ่าฮ่า" หวานพูดทีเล่นทีจริง ขณะที่เหมียวเองเริ่มมีอารมณ์คล้อยตาม มือเหมียวเองบีบมือหวานโดยไม่ทันรู้ตัว
"ลองป่าวล่ะ ฮ่าฮ่า" หวานหยั่งเชิง ดูปฏิกิริยาเพื่อนสาว เธอไม่ตอบอะไร แต่ก็จับมือหวานไปด้วยตลอดระหว่างคุย
"เฮ้ย พูดแค่นี้มีอารมณ์หรอ" หวานแกล้งแซวอีก
"บ้าหรอ" เหมียวปฏิเสธทำหน้าเขิน แต่หวานเองสังเกดได้ว่า เหมียวเริ่มตื่นเต้นเพราะมือของเพื่อนสาวมีเหงื่อมากขึ้น หวานเลยแกล้งเลื่อนมือไปบางบนหน้าขาเหมียวเหมือนไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งเหมียวเองไม่ได้ว่าอะไร เมื่อหวานเห็นเหมียวไม่ว่าอะไร ระหว่างคุยกัน เธอจึงลองลูบขาเหมียวขึ้นลงเบาๆ จนทำให้เหมียวรู้สึกวูบวาบ จนต้องเอามือตัวเองมาจับมือหวานไว้ไม่ให้ลูบสูงขึ้นไปกว่านี้
"เตงอย่า เดี๋ยวคนเห็น" เหมียวตอบสนองรับรู้ว่าหวานกำลังทำอะไรกับตนเอง แต่ไม่ยังกระดากอายกลัวคนรอบข้างสังเกตได้ หวานเองรู้แล้วว่า เหมียวเริ่มตอบสนองแล้ว เลยเปลี่ยนมาโอบเอวเพื่อนสาว แล้วแกล้งหอมทีเล่นทีจริงบ้าง
"ไหนดูสิว่า เหมียวมีแววเลสได้หรือเปล่า" ว่าแล้วหวานหอมแก้มทันที จนทำให้เพื่อนสาวเขินหนักกว่าเก่า เหมียวรู้สึกขนลุกแต่กลัวว่าจะเลยเถิดไป เลยขอตัวไปห้องน้ำ ซึ่งหวานขอตามไปส่งด้วย เมื่อทำธุระส่วนตัวกันแล้ว ตอนเดินออกมาแถวทางเดินไม่มีใคร หวานจึงสะกิดให้เหมียวหันมาเหมือนอยากคุยอะไรได้ แล้วด้วยอารมณ์คุกรุ่น หวานกอคอเหมียวแล้วโน้มมาจูบ จนเหมียวผงะไปเล็กน้อย
"เตงทำไรอ่ะ" เหมียวทำคิวย่นแกล้งไม่พอใจทั้งที่เธอก็อยากรู้ยิ่งนัก แต่ก็ไม่ถึงกับสะบัดตัวหนี "ลองจูบดูนะเตงจะได้รู้ว่าเลสรู้สึกไง"
หนนี้เหมียวไม่ปฏิเสธ หวานค่อยละเลียดสัมผัสที่ริมฝีปากเหมียวช้าๆ ในท่ายืน เหมียวรู้สึกขนลุกซู่ แล้วเหมือนตัวเบาไปหมด นี่คือจูบแรกกับผู้หญิงดัวยกันหนแรกในชีวิต ผสมทกับที่ความต้องการเธอเริ่มปะทุอยู่แล้วด้วย ตอนแรกแค่แตะปากกันเฉยๆ แต่สักพักเหมียวเริ่มประกบปากจูบตอบ เธอรู้สึกสยิวและล่องลอยไปหมด มันเป็นความรู้สึกซาบซ่านแผ่ไปทั้งตัว
เมื่อทั้งสองเดินไปที่โต๊ะ บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนไป คำพูดน้อยลง เปลี่ยนเป็นความปรารถนามากขึ้น เหมียวปล่อยให้หวานลูบขาของตนไปมา จนกระโปรงเลิกขึ้นมาเกือบเห็นชั้นใน เหมียวพยายามหยิบเอาขอบกระโปรงลง แต่มือของหวานยังคงทำงานอยู่ภายใต้กระโปรงนั้น พร้อมๆกับเหมียวเริ่มรู้สึกเคลิ้มหลับตาพิงไหล่ของหวานไปด้วย เธอขบริมฝีปากตัวเองเป็นระยะเพราะสิ่งที่หวานกำลังทำให้
"เหมียว ตัวไปต่อห้องเค้านะ" หวานกระซิบ แม้ว่าเหมียวไม่ได้ตอบอะไร แต่หวานรู้ดีว่าเธอยินยอมโดยดีในค่ำคืนนี้
.....
เมื่อเช็คบิลจ่ายเงินเสร็จ หวานเรียกแท็กซี่พาเหมียวไปยังห้องพักของตน ซึ่งอยู่ห่างจากบริษัทที่ทำงานราวครึ่งชม. ทั้งสองคนนั่งเบาะหลัง โดยหวานจับมือของเหมียวไปด้วยตลอดทาง แต่ไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่านั้น เพราะเป้าหมายปลายทางคือห้องนอนของหวานนั่นเอง ทั้งสองคนรู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น
เมื่อเปิดประตุเข้ามาห้องนอน หวานไม่รอช้าปิดกลอน แล้วรีบระดมจูบใส่เหมียวทันที โดยมิได้เปลี่ยนเสื้อผ้าด้วยกันทั้งคู่ เหมียวจูบตอบทุกจังหวะรุกเร้า หวานค่อยๆแกะกระดุมเสื้อเหมียวออก วินาทีนี้ เหมียวไม่ได้สนใจแล้วว่าคู่นอนเธอจะเป็นเพื่อน จะเป็นหญิงหรือชาย อารมณ์เธอเรียกร้องต้องการไปถึงจุดหมายเหลือเกิน
หวานถอดเสื้อเชิ้ตรัดรูปแบบผู้หญิงของเหมียวออก เผยให้เห็นยกทรงสีขาว สิ่งที่เหมียวไม่อยากเชื่อสายตาคือ หวานเลื่อนหน้าลงไปที่อกของเธอ แล้วเริ่มขบริมฝีปากที่เนินอกเบาๆ อีกมือข้างหนึ่งคลึงหน้าอกเหมียวไปด้วย ทำให้เหมียวถึงกับอ้าปากข้างก้มมองสิ่งที่หวานทำกับตนเอง แต่เธอหมดแรงขัดขืนปฏิเสธใดๆ
"อาส์" เหมียวเผลอครางออกมาเพราะความเสียวซ่าน เมื่อหวานไล้ปากเลียเนินอกจนไปถึงฐานนมซึ่งเป็นจุดเสียวของผู้หญิง หวานรู้แล้วว่าความต้องการของเพื่อนสาวเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ เธอเอื้อมมือไปปลดตะขอบราขนาด 34 ซีอออก แล้วก้มลงเลียบริเวณหัวนมด้านซ้ายของหวาน ขณะที่มืออีกข้างคลึงไปรอบๆนมอีกด้านของเหมียวในลักษะยืนด้วยกันทั้งคู่ เหมียวแหวนหน้าขึ้น ไม่กล้ามองสิ่งที่หวานกำลังทำให้ เธอซีดปาก และพยายามอั้นความรู้สึกไว้ ไม่ให้เผลอครางออกมา
กระนั้นก็ตาม ความช่ำชองของหวาน เธอใช้ลิ้นตวัดเนินอกอีกข้างของเหมียวแล้วสลับมือไปคลึงหน้าอีกข้าง สักพักใหญ่ หวานเลื่อนมือขวาลงไปใต้กระโปรงเหมียวแล้วค่อยๆลูบมือขึ้นมาจนถึงเนินสำคัญ กระโปรงเธอถูกเลิกขึ้นจนเห็นชั้นในสีดำมีลูกไม้เล็กๆชัดเจน เหมียวก้มหน้าลงมาดูอีกครั้งว่าหวานทำอะไรกับตรงนั้น แต่ไม่ทันเสียแล้ว หวานลูบนิ้วผ่านร่องสำคัญแม้ว่าเป็นภายนอกชั้นใน แต่ทำให้เหมียวทนไม่ไหวถึงกับขาอ่อนเกือบทรุดลงกับพื้น จนหวานต้องเอื้อมืสองมือมาประครองทีเอวไว้
เหมียวเงยหน้าขึ้นมามองหน้าหวานด้วยสายตาปรือ เวลานี้เธอต้องการสิ่งที่หวานกำลังมอบให้เหลือเกิน เหมียวหายใจเร็วและรัวหนัก หวานกลัวอารมณ์ขาดตอนไป เธอหันมาประกบปากเหมียวอีกครั้งระหว่างจูงมือเพื่อนสาวไปบนเตียงนอน
บทเรียนบทแรกของเลสที่หวานมอบให้เหมียวในคืนนี้ยาวนานและหลายครั้ง และเมื่อมีครั้งแรก ย่อมมีหนที่สองและสามตามมา จนทั้งคู่กลายเป็นคู่เลสยาวนานหลายเดือน แน่นอนว่า เมื่อคนเรามีอะไรกัน ย่อมมีความผูกพันธ์กันบ้าง บนหน้าเฟซ เหมียวมักคอมเมนท์เหมือนแฟน หยอกล้อกันบ่อยๆ แต่ทั้งสองรู้กันในใจว่า มันเป็นเพียงแค่ความสัมพันธ์ด้านอารมณ์เท่านั้น มิได้ต้องการครองรัก ใช้ชีวิตร่วมกันในฐานะคู่รักแต่ประการใด
มีเลสไม่น้อยชอบความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัด การได้เชยชมเรื่อนร่างของผู้หญิงคนใหม่อยู่เสมอ คือความสุขและความตื่นเต้นอย่างหนึ่งของกลุ่มเลสที่ชอบความสัมพันธ์แบบนี้ ซึ่งก็แน่นอนว่า ต้องถามข้อมูล รายละเอียดส่วนตัวกันมาก่อน เพื่อความปลอดภัย บ้างเป็นเลสไบ แต่อยากมีอะไรกับเลสแบบไม่ผูกพันก็มี หรือเลสแท้ ที่มีความต้องการสูง อยากมีอะไรกับผู้หญิงสวยๆด้วยกันก็เยอะ
หนหนึ่ง หวานนัดพบกับเลสไม่ผูกมัดอีกคนชื่อ "แคท" เธอทำงานอยู่รัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่ง ภายหลังจากคุยในเฟซและไลน์กันได้ราวสองสัปดาห์ หวานกับแคทนัดกันกินข้าวและเปิดห้องในโรงแรมด้วยกันแถวย่านรัชดาภิเษก
เช่นเดียวกันเลสทั่วๆไปที่มักรู้จักผ่านทางโลกออนไลน์ในสมัยนี้
"สวัสดีค่ะ เค้าชือแเคทจ้ะ เลสนะ เตงเลสหรือเปล่าคะ" แคทถาม
"ดีค่ะ เค้าหวานค่ะ เลสทูจ้ะ"
แคทเองค่อยๆพยายามถามอย่างระมัดระวังว่า หวานเป็นเลสแบบไม่ผูกมัดหรือไม่ เพราะเลสส่วนใหญ่ มิใช่แนวนี้ หากยิงคำถามเร็วไป นัดเร็วไป อาจโดนมองว่าหื่นแล้วเอาไปโพสต์ด้าหน้าเฟซได้ ซึ่งแคทเองเคยโดนแบบนั้นมาแล้ว
"มีแฟนอยู่หรือเปล่าคะ ถามได้ไหม" แคทค่อยๆตะล่อมๆคุย
"ตอนนี้โสดคะ" หวานตอบ "แล้วเตงล่ะคะ"
"ก็มีคุยบ้าง แต่ไม่ได้มีแฟนเป็นตัวเป็นตน" แคทบอก "แต่บางคนก็แค่มีอะไร แต่ไมได้คบกันนะ"
"อ๋อ แบบไม่ผูกมัดหรอ" หวานเหมือนจับทางได้ว่า แคทมีจุดประสงค์อยากหาคู่นอนแบบชั่วครั้งชั่วคราว
"ค่ะ แล้วเตงแบบมาจีบมาคบ พอได้เราแล้วเงียบหายเลยไหม" แคทพยายามตีวงคำถามเข้าสู่จุดศูนย์กลาง
"มีเหมือนกัน คนเรามันไม่แน่นอน คนที่คิดว่าใช่พูดหวาน ท้ายสุดแค่อยากมีไรกับเราไง"
คำตอบของหวานทำให้แคทรับรู้ว่า เคยคบแบบไม่ผูกมัดเหมือนกัน ก่อนเธอพยายามหาวิธีชวนต่อ
"ไว้คุยสนิทๆกัน ไปเที่ยวกันไหม" แคทชวน
"ได้สิ เตงก็น่ารักน่าเดินด้วยนะ" หวานตอบรับ "เที่ยวอย่างเดียวนะ ห้ามทำอย่างอื่น"
"อ๋อไม่ทำหรอก" แคทรีบออกตัว
"เค้าอำเตงเล่น กลัวทำแล้ว หวานจะติดใจไง"
แคทถอนหายใจโล่งอก "เค้าเองก็เคยไม่ผูกมัด คุยมาตรงๆได้ แต่ถ้าจะนัดกันจริง เค้าขอเวลาศึกษาเตงสักพักนะแล้วจะให้เจอ"
"โอเคจ้ะคนสวย"
แน่นอนว่า ไม่นานนัก ทั้งคู่นัดกันแล้วมีความสัมพันธ์กันแบบชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ได้ผูกมัดหรือมีความรักต่อกัน เลสแบบไม่ผูกมัดจริงๆแล้วก็มีพอสมควร แต่บางครั้งเมื่อมีอะไรกัน กลับเกิดความชอบหรือความรักกันก็มี
ประการสำคัญคือ ก่อนจะนัดเพื่อมีอะไรกัน แต่ละคนควรถามข้อมูล คุยกันแบบตรงไปตรงมาถึงความต้องการของอีกฝ่าย ข้อมูลของอีกฝ่ายว่าเคยมีอะไรกับแฟนชายอยู่หรือไม่ มีแล้วป้องกันอะไรหรือเปล่า ประเภทนี้ค่อนข้างเสี่ยงไป ปัญหาคือเลสไม่ผูกมัด เวลาต้องการมีอะไรกับใคร มักไม่บอกว่าตัวเองเลสไบ หรือมีความสัมพันธ์กับเลสคนอื่นๆถี่มากน้อยแค่ไหน ต่อให้เป็นผู้หญิงกับผู้หญิง หากไม่ระวังและมีอะไรกันง่ายเกินไป ก็อาจก่อให้เกิดโรคไม่พึงประสงค์ได้เช่นกัน
เล่นเดียวกับ "น้ำ" คนล่าสุดที่หวานพามาเที่ยวงานเลสด้วยกัน ทั้งสองคนจูบกันอย่างดูดดื่ม เป็นการสร้างความสมพันธ์ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความรักมาก่อน
เลสแบไม่ผูกมัด คือโลกของความเป็นจริงอย่างหนึ่งในสังคมเลสเบี้ยน มันมีอยู่จริงๆ บางทีอาจเป็นคนข้างๆกายเราก็ได้ใครจะไปรู้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้นะคะ