วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
แล้วเราก็ลงเอย
เรื่องราวโลกของเลส มีอะไรอีกมากมายที่ฉันอยากเล่า มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในความเป็นของความรักระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง มีหลากหลายรูปแบบ ฉันได้เรียนรู้กับการคุยกันกับเพื่อนในโลกโซเชียล รวมถึงประสบการณ์ส่วนตัว จนทำให้ฉันรู้จักเลสมากขึ้น มีทั้งหวังดี จริงใจ หรือกระทั่งโลกสวย หลอกลวง สารพัด
แน่นอน เมื่อคุณอ่านมาจนถึงจุดนี้ฉันได้เล่าเรื่องราวของเพื่อนไปหลายคน รวมถึงความรักของฉันกับพี่อรที่คุณคงสงสัยว่า ฉันกับพี่อรเมืือไหร่จะรักกันมีอะไรกันสักที
ความสัมพันธ์ของเราสนิทขึ้นกว่าเดิม มากกว่าคำว่าพี่น้องเหมือนสมัยก่อน มันขึ้นภายหลังพี่อรเลิกกับพี่เมศร์ได้ราวสองสามเดือน ช่วงนี้ลูกค้ามาจีบพี่อรเยอะเหมือนกัน แต่พี่อรยังเข็ดกับความรักครั้งเก่า ในเฟซก็มีเลสและทอมมาจีบพี่อรในเฟซมากมายจนเป็นเรื่องปกติ แต่พี่อรไม่ตกลงปลงใจกับใครอยู่ดี บางทีพี่อรกำลังช่างใจระหว่างความรักหญิงกับชายหรือหญิงกับหญิงว่า ท้ายสุดพี่อรจะเลือกอยู่ฝั่งไหนต่อจากนี้
ฉันไม่รู้คิดไปเองหรือเปล่าที่มองว่าพี่อรมีใจให้ฉันแบบคนรักมากขึ้น จากที่พี่อรค่อนข้างห้าวๆเวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อน เมื่อกลับถึงห้องพี่อรค่อนข้างอ่อนโยน และเอาใจฉันเป็นพิเศษ ทั้งหาขนมให้ทาน ไปส่งฉันเวลาไปทำธุระข้างนอก เทคแคร์ฉันเป็นพิเศษเวลาทำงาน บางทีก็ช่วยซับหน้าให้ หาน้ำให้ดืม บางทีพีเขาไปเดินช็อปปิ้งกับเพื่อน แล้วก็หาของเล็กๆติดไม้ติดมือมาฝากด้วยตลอด แล้วชอบเลี้ยงข้าวบ่อยๆจนฉันเกรงใจต้องบอกว่า ขอแชร์กันไม่อย่างนั้นจะไม่ทานด้วย พี่อรถึงยอม
สายตาที่อรมองฉันดูแปลกไป เหมือนคนที่จีบกันแล้วทำตาเยิ้มใส่ ในเวลาเดียวกันมักยิ้มให้ฉันแบบน่ารักด้วย ไม่รวมเวลาอยู่ในผับมักชอบแกล้งหอมบ่อยๆจนที่ฉันเขิน กลายเป็นชินไปเสียแล้ว เรื่องยืนกอดคอ โอบเอวเต้นกันจนหน้าอกชนกัน เป็นเรื่องปกติจนหนุ่มๆต้องมองตาค้างเป็นแถว
ฉันเองยังไม่กล้าปักใจเสียทีเดียวว่าพี่อรจะรักฉันแบบเลส เพราะฉันเคยบอกรักไปแล้วสองหน และพี่อรยังขอเป็นเพียงพี่น้องในเวลานั้น (แม้ว่าเราเคยจูบกัน 2 หนแล้วก็เถอะ!)
มีอยู่หนที่เราไปเดินช็อปปิ้ง เดินเที่ยวเล่นกัน พี่อรจับมือฉันตลอดเวลา ทั้งช่วงเดินดูของ รวมไปถึงดูหนัง ในโรงภาพยนตร์พี่อรเอื้อมมาจับกุมมือฉันเบาๆ ฉันเองหงายมือขึ้นและกุมมือตอบรับ เราทั้งสองไม่ได้หันหน้ามองกัน แต่ก็เป็นสัญญาณในๆว่า ใจของเราเริ่มสื่อถึงกันแล้ว
และแล้วก็มาถึงวันเกิดของพี่อร พี่เขาสวยมาก สดใส เราดื่มด่ำฉลองกันในหมู่เพื่อนฝูงกันอย่างสนุกทั้งที่ร้าน และต่อกันในผับอีกแห่ง พี่วิวเองก็อยู่ด้วย ในเวลานั้น ฉันกับพี่กับพี่วิวเริ่มกลับมาคุยกันบ้าง เมื่อพี่วิวสะกิดถามฉันว่า "นากับอรเป็นแฟนกันแล้วหรอ"
"ยังคะ" ฉันตอบไปแบบห้วนๆไม่ยิ้มใดๆ บางทีฉันควรลืมความเจ็บครั้งแก่กับพี่วิวไปได้แล้ว ซึ่งหนนั้นเราทั้งสองคนคบกันอาจเป็นความปรารถนาเรื่องเซ็กซ์มากกว่าอย่างอื่น ซึ่งเราก็รู้กันแก่ใจ เพียงแต่ไม่กล้าเปิดใจกันในภายหลังอีกเลย
"เอาใจช่วยนะ" พี่วิวบอก แต่เราก็ทักกันแค่นั้น พี่วิวเองก็พาแฟนสาวมาด้วย น่ารักไม่เบาทีเดียว แต่ก็ยังสวยน้อยกว่าพี่วิวกับพี่อรมาก
ค่ำคืนนี้เหมือนพี่อรเป็นอิสระจากพันธะ และความรู้สึกใดๆกับแฟนเก่าทั้งปวง บางช่วงที่เพื่อนๆกำลังสนุกนานเต้นกัน พี่อรนั่งติดกับฉันคุยกันตามปกติ ไม่ได้โอบกอดใดๆ เพราะเวลาอยู่ต่อหน้าเพื่อนฝูง พี่อรไม่อยากทำเช่นนั้นให้คนอื่นมองเราว่าเป็นคู่เลส เพราะในสายตาผู้ชายมักมองว่าเลสมีแต่เซ็กซ์กันเท่านั้น แท้จริง ผู้หญิงกับผู้ชายคบกันก็มีเซ็กซ์กันมานนานเป็นร้อยชาติ แต่ผู้คนกลับไม่มองว่าเขาและเธอแค่มีเซ็กซ์กันบ้างล่ะ ความรักของผู้หญิงกับผู้หญิง ต่างกับหญิงและชายตรงไหนหรือ
"วันนี้พี่มีความสุขมากจริงๆนา" พี่อรชวนคุยและยิ้มอย่างรื่นย์อารมณ์ "พี่เองก็เคยรักผู้หญิงนะ แม้ว่าตอนนั้นพี่เป็นดี้ก็ตาม"
ฉันนั่งฟังอย่างตั้งใจโดยไม่พูดขัดแม้แต่นิดเดียว
"ถ้าพี่เป็นเลส และเจอนาก่อน พี่คงไม่ไปคบเมศร์หรอก แต่เรื่องแบบนี้ใครจะรู้อนาคตได้ พี่เองเคยเจ็บเพราะความรัก และก็เคยทำให้คนอื่นเจ็บเหมือนกัน แล้วพี่ก็ไม่อยากให้อภัยตัวเองเลยที่ทำแบบนั้น"
พี่อรนิ่งเหมือนคิดอะไรสักพัก "ถ้าพี่อรไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะคะ"
"เล่าได้" พี่อรเริ่มพูดต่อ "เรื่องมันนานแล้ว ตอนพี่คบแฟนทอม พี่ทำเขาเจ็บมาก เพราะตอนหลังๆพี่แอบคบชายไปด้วย จนกระทั่งเรื่องแตก ทำให้แฟนพี่เสียใจมาก นั่นเป็นสาเหตุที่พี่ไม่คิดจะคบใครซ้ำซ้อนอีก ไม่ว่าทอมหรือชายก็ตาม"
"ถ้าพี่เป็นเลสและเจอนาก่อนเมศร์ พี่คบนาไปแล้ว" คำบอกของพี่อรทำให้ฉันอึ้งฉับพลัน "พอพี่อยู่กับนาตั้งแต่หอพักที่มหาวิยทาลัยจนถึงคอนโดที่เราอยู่ด้วยกันในปัจจุบัน ทำให้พี้รู้ว่า ความรักของผู้หญิงกับผู้หญิงก็ไม่ต่างอะไรกับชายกับหญิงหรือทอมกับดี้ แน่นอนว่า ท้ายสุดคนเป็นแฟนกันย่อมมีอะไรกัน แต่เพราะนั่นความรักนำพาเราไปสู่จุดนั้น อันเป็นการถ่ายทอดความรัก และสื่อสัมพันธ์ให้แก่กัน"
"นาเคยถามพี่ว่า เมื่อใดพี่เป็นโสด จะคบนาเป็นแฟนได้ไหมใช่ไหม"
ฉันไม่ได้ตอบ แต่ส่งสายตาให้รู้ว่ายังจำประโยคนั้นได้
"ถ้าพี่ขอโอกาสจากนา ให้พี่รักแบบที่ผู้หญิงรักกัน นาจะให้พี่ได้ไหม" ฉันรู้ว่าพี่อรไม่ได้พูดด้วยความเมา แต่มาจากใจล้วนๆ ไม่เหมือนตอนที่พี่อรกลับต่างจากจังหวัดและเชื้อชวนให้ฉันร่วมรักกับพี่เขา
ความรู้สึกในใจฉันปลื้มและเหมือนตัวลอยๆ จนทำอะไรไม่ถูก น้ำตาเหมือนเอ่อที่ขอบตาเล็กๆ แต่ฉันพยายกลั้นไว้ ฉันไม่ได้ตอบเป็นคำพูดออกไป แต่ค่อยๆเอื้อมมือใต้โต๊ะไปจับมือของพี่อรและกุมไว้แน่น และสิ่งยิ้มให้อันเป็นคำตอบจากใจ พี่อรยิ้มตอบและยกแก้วเหล้าขึ้นชนดื่มพร้อมกับฉัน
มันเป็นค่ำคืนที่ฉันมีความสุขอย่างมาก เวลานั้นสาบานได้ว่า ไม่ได้คิดเรื่องเซ็กซ์หรือทำอะไรต่อมิอะไรกับพี่อรเลย ทว่าเมื่อความรักพร้อม สองใจตรงกัน มันจะส่งสัญญาณบอกเราเองว่า ทั้งสองคนต้องการมันเมื่อใด
.....
ค่ำคืนในห้องมืดสลัวของคอนโดมิเนียมที่เราอยู่กันมาหลายปีในฐานะพี่น้อง กำลังทำให้สถานะของเราเปลี่ยนไป เมื่อกลับถึงห้อง เราสองคนตรงเข้ากอดกัน และจูบกันโดยเอ่ยปากนัดหมายกันมาก่อน หัวใจของเรา ความรู้สึก และธรรมชาติเรียกร้องให้เราโอบกอดกันอย่างแนบแน่น ฉันน้ำตาไหลออกมาเล็กน้อยจนพี่อรเอามือมาปัดเบาๆ และเอื้อนถาม "ร้องไห้ทำไมล่ะคะที่รัก"
"นาดีใจและมีความสุขมาก ไม่คิดมามีวันนี้ได้ นาไม่เคยคิดว่าพี่อรจะเป็นเลสได้ และรักนาได้"
"พี่รักนามาานแล้วล่ะจะบอกให้" พี่อรยิ้มและส่งสายตาหยาดเยิ้ม จนทำให้ฉันเคลิ้มตาม เป็นคำพูดที่ทำให้ฉันเปี่ยมสุขเหลือเกิน
ในฐานะเลส ฉันไม่เคยรุกเร้าให้คู่นอนมาก่อน พี่อรเองแม้เคยเป็นดี้ ซึ่งที่ฉันเคยทราบมาดี้ส่วนใหญ่ก็รับเท่านั้น ยามราตรีนี้ เรากำลังเรียนรู้สิ่งใหม่และถ่ายทอดให้กันและกัน มันยาวนานเหลือเกินที่เราหลั่งความารักและถ่ายทอดให้แก่กันตลอดทั่วเรือนร่าง และทุกอนูของหัวใจ ตราบจนเกือบรุ่งเช้าที่เรามีความสุขกันแบบไม่เคยมีมาก่อน
...
ตอนสายของวันรุ่งขึ้น ภายหลังเราอาบน้ำอาบน้ำอะไรกันแล้ว เราก็ไม่กล้ามองหน้ากันเต็มๆนัก เหมือนยังเขินๆกับเรื่่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืน ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติของเราที่เรียกร้อง พี่อรทำอาหารเช้า โอวัลติน และขนมปังปิ้ง กับไส้กรอกให้นาทาน พี่อรใส่เสื้อเชิ้ตบางๆ คลุมถึงเอว ใส่กางเกงขาสั้น ฉันว่าเป็นชุดอยู่บ้านที่เซ็กซี่ดีเหลือเกิน
ฉันกนเสร็จ นั่งดื่มน้ำไป และมองหน้าพี่อรตรงๆ พี่อรได้แต่ยิ้มขวยเขิน จนฉันแกล้งกระแอมแซว
"เป็นอะไรอะพี่อร ทำไมไม่มองหน้านาล่ะ" นายิ้มและเล่นหูเล่นตาใส่ พี่อรขยับหน้ามาเล็กน้อย แล้วยิ้มแบบอายๆ โดยไม่กล้ามองหน้าตรงๆอยู่ดี
ฉันแกล้งเดินไปด้านหลังพี่อร แล้วโอบเอวจากข้างหลัง พอพี่อรหันมาฉันก็หอมเข้าที่แก้มเต็มๆ
"ที่รัก นารักพี่อรนะ" คือสิ่งที่ออกมาใจฉันและบอกกระซิบยังข้างหูแฟนสาวของฉัน
"จ้ะ" พี่อรพูดสั้นๆ แล้วก็หันมาจูบริมฝีปากเบาๆ
เป็นเช้าที่เราสองคนคุยกันน้อยมาก อาจเพราะความเขินจากการที่เราเพิ่งมีความสัมพันธ์ทั้งกายและใจในแบบแฟน พอเราล้างถ้วยล้างจานเสร็จก็มานั่งดูโทรทัศน์กันที่โซฟา นาเลยถามสิ่งที่ตนเองอยากรู้ต่อ
"เมื่อวานพี่อรบอกว่า รักนามานานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าตอนไหน แล้วทำไมพี่อรไม่บอกนาเลยละ"
"พี่สับสนมาตลอดนะตอนนามาอยู่ด้วย เวลาอยู่ด้วยกันมีความสุข บางทีใจมันก็หวิวๆ" พี่อรเผย "แต่เพราะพี่มีแฟนชายอยู่ เลยไม่แน่ใจว่า สิ่งที่พี่รู้สึกกับนา มันมากกว่าความเป็นพี่น้องหรือเปล่า และอีกอย่างถ้าเราเป็นแฟนกันในตอนนั้น พี่รู้สึกว่าผิดกับนานะ เหมือนเอาเปรียบนาเพราะพี่ก็ยังคบเมศร์อยู่"
"เรื่องแค่นี้เอง" ฉันยิ้มให้ "นาไม่สนหรอกว่าพี่อรมีแฟนชายอยู่หรือเปล่า ถ้าพี่อรบอกรักนา นาก็ยอมเป็นของพี่อรอยู่แล้ว ไม่ว่าพี่อรมีแฟนอยู่หรือไม่ก็ตาม"
"พี่ไม่อยากให้ใครต้องเจ็บนะ ถ้าพี่มีนาเป็นแฟนด้วย ม้นเหมือนพี่เอาเปรียบนา และนาอาจเจ็บ แล้วมันก็เหมือนไม่ซื่อกับเมศร์ แล้ว..."
พี่อรหยุดนิ่งไปเฮือกใหญ่ ก่อนเล่าต่อ "ไม่รู้ว่านาจะมองพี่แย่หรือเปล่านะ ตอนที่พี่คบแฟนทอม พี่เองแอบมีกิีกทอมอีกคนด้วยและมีอะไรกัน"
เรื่องที่พี่อรเล่า คล้ายๆกับรุ่นน้องรูมเมทเพื่อนฉันที่เคียเป็นทอมมาก่อน แล้วจับได้ว่าแฟนดี้ของเธอแอบมีแฟนชาย จนกระทั่งเธอหันมาเป็นดี้ และกลายเป็นเลสในที่สุด
"เรื่องมันผ่านไปนานแล้วพี่ ไม่ใช่พี่อรคนเดียวหรอกที่ต้องพานพบประสบการณ์แบบนั้น"
"ก็จริง" พี่อรพูด "แต่พี่ก็ทำให้ แม็ก แฟนทอมคนแรกเสียใจมากนัก ตอนจับได้ว่าพี่คบทอมอีกคน เขาหนีออกจากหอไปเลย แล้วพี่ง้ออย่างไรก็ไม่ยอมกลับมา เขากลับไปบ้านต่างจังหวัดแล้วไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย พี่เองก็พยายามโทร.ไปที่บ้าน เขาก็ไม่ยอมรับสาย พี่ก็พยายามหาทางติดต่อกันโดยตลอดนะ อยากชดเชยความผิด ตอนที่พี่เลิกกับเมศร์ใหม่ๆ พี่ก็ลองโทร.หาพี่ชายแฟนเก่า เขาก็บอกว่าแม็กมีแฟนใหม่แล้ว พี่ก็โล่งใจ อย่างน้อยก็รู้ว่าแม็กไม่ได้ทำอะไรบ้าๆไป เลยทำให้พี่รู้สึกเป็นอิสระเสียที"
ความรู้สึกของพี่อร ทำให้ฉันเข้าใจถ่องแท้ว่า หากพี่อรจะคบฉันจริง ก็้คงคบแบบมีแฟนคนเดียว ไม่อยากทำให้ฉันเหมือนเป็นน้ำใต้ศอกของใคร
"อยู่กับนา พี่มีความสุขมากนะ จำได้ไหม หนแรกที่นาเมาแล้วขอให้พี่จูบ ถ้าพี่ไม่รักนา พี่ไม่จูบหรอกย่ะ" พี่อรทำจมูกย่นๆใส่แล้วหอมฉัน ทำให้ฉันดีใจมากๆจนน้ำตาซึม
"รักตั้งนานแล้วไม่ยอมบอก แบบนี้ต้องทำโทษ" ฉันแกล้งพูดแหย่
"นาจะทำโทษอย่างไร พี่ยอมทั้งนั้นแหละ พี่เป็นของนาแล้วนี่นา" พี่อรยิ้มหวาน และส่งสายตาเยิ้มใส่ ฉันเอามือช้อนคางพี่อรให้หันหน้ามา แล้วบรรจบประทับริมฝีปากที่ปากพี่อรอย่างนุ่มนวล และค่อยๆดูดดืมกันอย่างยาวนาน ฉันเคยเป็นเลสควีนส์มาก่อน แต่ความปรารถนาที่เหลือล้น ทำให้ควีนส์ก็กลายเป็นทูได้อย่างรู้ตัว บทเรียนจากเมื่อคืนที่เราเก้ๆกังๆ ทำกันไม่ค่อยเป็น แต่ไม่เช้าเราก็ได้เรียนรู้มากขึ้้น รู้จังหวะจากโคนกันมากกว่าเดิม เราผลัดกันรุกและรับตัวเราเหมือนล่องลอยไปมาบนโซฟาใหญ่ตัวนั้น
หากถามว่าเลส มีคำว่าเซ็กซ์เป็นส่วนประกอบสำคัญไหม ฉันตอบว่า "ใช่" แต่ไม่ใช่ทั้งหมด สำหรับฉันกับพี่อร เรารักกันมานานเหลือเกิน และเราค่อยๆเติมรสชาติเรื่องนั้นไว้ทีหลัง แล้วเราสองคนรู้สึกมีความสุขอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน...
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้นะคะ