วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
เลสแท้สำคัญไฉน
ท่ามกลางโลกโซเชียล และสังคมเลสที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และเปิดตัวเองมากขึ้นในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา มีคำถามว่า "เลสแท้" จะมีจริงๆหรือเปล่า
ฉันไม่รู้ว่าใครจะมีแนวคิดเหมือนตนเองไหม "เลสแท้" ในมุมมองบางคนอาจเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง เกิดมาเพื่อเป็นเลสโดยเฉพาะ ไม่เคยคบแฟนชาย เกิดมาเพื่อรักผู้หญิงด้วยกันโดยเฉพาะ มีความสัมพันธ์ด้านเพศกับผู้หญิงเท่านั้น บางทีอาจเป็นกับทอมหรือกับดี้มาก่อน ก็อาจเป็นเลสนแท้ในเวลาต่อมาได้ และบางทีเธออาจยังไม่รู้ตัวว่าเป็นเลสมานานแล้ว
เลสแท้ มันจะไปได้หรือไม่?
มีความเป็นไปได้สิ แต่โอกาสนั้นน้อยมากเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใหญ่อายุ 23-30 ปี เท่าที่ฉันรู้จักเพื่อนเลสในเฟซบุค ไลน์ หรือในสังคมเพื่อนเรียน มหาวิทยาลัยและทำงาน โอกาสที่มีเลสแท้แบบไม่เคยมีความสัมพันธ์กับชายนั้นน้อยมาก
หลายคนอาจบอกว่า เธอคือเลสแท้ แต่เมื่อฉันได้คุยกับเพื่อนเลสอย่างลึกซึ้งแล้ว บางคนค่อยๆกล้าเปิดใจในภายหลังว่า เคยมีอะไรกับแฟนชายมาก่อน หรือบางคนเคยเป็นดี้ และทอมมาก่อน
ในยุค 5-6 ปีก่อน เลสยังไม่กล้าเปิดตัวมากนัก ทำให้หลายคนพยายามปรับตัวเองให้เป็นทอม หรือดี้ เพื่อคบหากับสาวที่ตนชอบ จนเมื่อโลกโซเชียลแพร่ขยาย ผู้หญิงเริ่มกล้าเปิดใจกัน มีการนัดพบปะ หรือพูดคุยกันทั้งยุคก่อนที่มีเอ็มเอสเอ็น จนกระทั่งถึงมี เฟซ ไลน์ และแชตอื่นๆ สังคมชาวเลสขยายตัวขึ้นจนขนาดมีผับจัดวันสำหรับชาวเลส ทอมดี้ เรียกว่าหญิงล้วนๆเที่ยวโดยเฉพาะ และนั่นทำให้ความรู้สึกของเลสกล้าเปิดตัวและเปิดใจมากขึ้นไปอีก จนกล้าจะคบกันแบบเปิดเผย กล้าจูงมือ กล้าคบหา กล้าใช้ชีวิตด้วยกันแบบแฟน คนรัก มากกว่าเดิม
"มิ้ง" ผู้หญิงวัย 26 หน้าตาคม จัดว่าสวยทีเดียว เธอเคยเป็นดาวในระดับคณะของมหาวิทยาลัย ช่วงแรกเธอยังไม่ค้นพบเลส และโลกไม่ได้เปิดกว้างมากนัก ทำให้มิ้งไว้ผมสั้นคล้ายทอม แต่งตัวห้าวเล็กๆ ความเป็นคนหน้าตาดี เลยทำให้คล้ายๆทอมหล่อ มิ้งมีความสัมพันธ์กับสาวหลายคนที่พร้อมมีอะไรกับเธอ จนกระทั่งได้พบผู้หญิงคนหนึ่ง และใช้ชีวิตคู่ร่วมกันในฐานะคู่รัก ทำให้มิ้งคนพบตัวเองว่าเธอคือเลสเบียนมิใช่ทอม และแฟนของเธอที่เคยเป็นดี้ก็ยอมรับในสถานะเดียวกัน
ทั้งคู่คบกันยาวนานถึง 5-6 ปี จากเรียนกระทั่งถึงไว้ทำงาน แฟนของมิ้งจริงๆแล้วเป็นรุ่นพี่มิ้งสองปี เมื่อเข้าสู่โลกการทำงาน กระแสโซเชียลเน็ทเวิร์คเริ่มแพร่หลาย เลสเริ่มเปิดตัวกันมากขึ้น บางคนคบหาแบบไม่ผูกมัดแค่มีอะไรแล้วจบไม่มีคำว่ารักเกี่ยวข้อง หลายคู่จีบจนรักกันคบกันหลายปี แต่หลายคู่ที่เคยเป็นแฟนในแบบคู่เลสกันมาก่อน ความสัมพันธ์ก็ต้องจบลงเพราะโลกโซเขียลเหมือนกัน
ว่ากันว่า โลกของเลส มักไม่ยืนยาว แต่ละคู่คบกันไม่กี่ปี เมื่อถึงจุดอิ่มตัว แต่ละคนมักปรารถนาความรักครั้งใหม่ ต้องการรสชาติกลิ่นอายในความรักและเซ็กซ์กับคนใหม่ แต่บางครั้งโลกออนไลน์ก็ทำให้ความรักของคู่เลสจบเร็วยิ่งขึ้น และบางทีเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝันเหมือนเช่นเรื่องราวของเธอ
ความรักของรุ่นพี่ค่อยๆเจือจางลง เพราะ "ไนท์" เริ่มคบหาคนใหม่ในวัยทำงานด้วยกัน จากการพูดคุยผ่านทางเฟซ กระทั่งในที่สุดไนท์กับผู้หญิงคนใหม่มีอะไรกัน แน่นอนว่า ความผูกพันกับมิ้งย่อมเบาบางลดน้อยลงไป ช่วงแรกไนท์ยังคงคบทัังแฟนใหม่ และมิ้ง เรียกว่ามีอะไรกับผู้หญิงทั้งสองคนแบบสับราง จนกระทั่งระยะหลังมิ้งรู้อะไรบางอย่าง จนทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันและต้องเลิกรากันในที่สุด
การเลิกราบ่อยครั้งเกิดขึ้นด้วยการทะเลาะเบาะแบ้ง ถกเถียงและลงไม้ลงมือ ด่าทอผรุสวาทใส่กัน กรณีของมิ้งก็เช่นกัน แม้ว่าไม่ได้ถึงขึ้นออกไม้ออกมือแต่ก็เถียงกันหนักพอสมควร ก่อนต้องจบความสัมพันธ์กัน ทั้งคู่อยู่ห้องเดียวกันอีกหลายเดือนโดยมิได้ปริปากคุยกันอีกเลย แต่จำใจต้องอยู่เพราะการเช่าห้องใหม่ต้องใช้เงินพอสมควร แล้วในที่สุด เมื่อถึงเวลาทั้งคู่ก็ต้องแยกย้ายกันไป โดยมิได้คุยกันอีกเลย การเลิกราแบบนี้เจ็บปวดยิ่งนัก มากกว่าการยุติความสัมพันธ์แบบคนรักด้วยการพูดจากกันด้วยดี บางครั้งต่างฝ่ายก็อาจเห็นพ้องตรงกันถึงความคิดอะไรหลายๆอย่าง การใช้ชีวิตห่างเกินกันจนตกลงแยกทางกันไปเพื่อคนพบชีวิตของตนเอง
ความปราถนาหนใหม่ของมิ้ง ที่ต้องการคบหาเพียงเฉพาะเลสยังคงดำเนินต่อไป เธอรู้แล้วว่า ความรู้สึกของเธอไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรักหรือการร่วมรักแบบผู้หญิงกับผู้หญิงของเธอ เป็นไปแบบเลสโดยเนื้อแท้ มิใช่แบบทอมดี้แต่ประการใด เธอไม่จำเป็นต้องไว้ผมสั้นอีกต่อไป มิ้งเข้าร้านเสริมสวย แต่งหน้าตาเป็นผู้หญิงเต็มตัว เสริมจมูกเล็กน้อยให้หน้าดูคมขึ้น ย้อมสีผมเล็กน้อยให้ดูโฉบเฉี่ยว กระทั่งแต่งตัวเป็นผู้หญิงเต็มรูปแบบต้้งแต่หัวจรดเท้า และเสื้อผ้าทุกอย่างเป็นแบบผู้หญิงทั้งหมด
ในเฟซบุคของมิ้งเปิดตัวเป็นเลสอย่างเต็มที่ จนเพื่อนที่ทำงานก็ทราบกัน รวมถึงพี่น้องในครอบครัว เธอทำเฟซโดยระบุ "สนใจเฉพาะผู้หญิง" นั่นคือสิ่งปกติที่เลสระบุข้อมูลในเฟซ มิ้งลงรูปตอนเธอคบแฟนเก่าหลายคน มีทั้งรูปหอม กอดคอกัน จุมพิตกัน เรียกว่าต้องการให้โลกหรือคนที่เข้ามาส่องเฟซของเธอรู้ว่าเธอเป็นเลสเต็มตัว ไม่ต้องมีคำถามใดๆอีกให้เสียเวลา
ความสวยของมิ้งทำให้มีผู้หญิงเข้าไปคุยกันมากมาย แน่นอนว่า เกือบทุกคนที่มาคุยหลงใหลในความสวยของเธอ พยายามจีบเธอ มิ้งนัดตอบรับทานข้าวกับเลสหลายคน มีความสัมพันธ์ภายนอกบ้าง เช่นหอมข้าง จูบหรือทำภายนอกกันบ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นมีเซ็กซ์แบบแนบเนื้อกัน กระทั่งมิ้งได้พบสาวน่ารักคนหนึ่งเป็นคนทำงานในวัยใกล้เคียงกันผ่านทางสังคมออนไลน์
แฟนคนใหม่ที่มิ้งตั้งใจคบยาวนานชื่อ "เปิ้ล" เธอไม่สวยเท่ามิ้ง แต่หุ่นดีและน่ารักพอประมาณ สูงใกล้เคียงกันชอบอะไรเหมือนๆกัน เวลาไปเที่ยวร้านอาหาร ผับดิสโก้เธค ก็จะแต่งตัวคล้ายๆกัน นัดกันใส่ชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์บ้าง กระโปรงสั้นรัดรูปบ้าง ทำอะไรคล้ายๆกันหลายอย่าง
มิ้งเชื่อว่าเปิ้ลคือความรักครั้งใหม่อย่างแท้จริง จึงค่อยๆลงรูปที่ถ่ายด้วยกันเวลาไปสถานที่ต่างๆ รวมถึงภาพตอนจูบกันกอดกันในห้องนอนเธอเพื่อเป็นการเปิดตัวแฟนใหม่ ความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งนั้นเกิดขึ้นมานานแล้ว ตั้งแต่ตอนนัดเจอกันหนแรก ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเลส เมื่อโทร.คุยกันสักพักราวสามสี่อาทิตย์หรือบางครั้งแค่ 1-2 สัปดาห์ก็นัดกันกินข้าวเที่ยว อาจมีอะไรในเวลาต่อมาหลังจากนั้นสักสัปดาห์ หรือบางทีอาจในหนแรกที่เจอกันก็เป็นได้
ข้อความโพสต์บนเฟซบุคของมิ้งรวมถึงอินสตราแกมทั้งหลายของเธอกับเปิ้ล บ่งบอกถึงความรักหวานชื่นด้วยดีตลอดเสมอมา แน่นอนว่า ข้อความในกล่อง inbox ของแต่ละคน ก็มักมีเลสมาจีบมากมายไม้เว้นแต่ละวัน แต่ทั้งสองคนยังไว้ใจกันและกันมาตลอด
มิ้งไม่ได้ใส่ใจว่า เปิ้ลจะเคยคบแฟนชายมีอะไรกับผู้ชายมาก่อนหรือไม่ ความหมายในคำว่า "เลส" ของแท้ จะเป็นเลสแท้ รักแต่ผู้หยิงมีอะไรแต่กับผู้หญิงอย่างเดียวมาตลอดหรือไม่ มิใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งสำคัญคือ ปัจจุบันที่คบกันต่างหาก แล้วเธอตระหนักได้เช่นกันว่า เลสน้อยคนนักไม่เคยมีอะไรกับผู้ชายมาก่อน
เปิ้ลเองเคยมีแฟนชายมาก่อน แต่มิ้งมิได้รังเกียจ สำคัญที่ปัจจุบันคบเธอคนเดียวเป็นพอ
มีเลสมากมายไม่ปฏิเสธ หากอีกฝ่ายเคยคบชาย หรือเคยเป็นไบมาก่อน ทว่า ณ เวลาที่คบกับเธอ ขอเพียงกลับมาเป็นเลสส่วนจะเป็นทู ควีน คิง นั่นขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน
แต่ก็มีบ้างที่เลสบางคน ไม่อยากคบผู้หญิงที่เคยมีแฟนชาย เพราะเกรงว่าอีกฝ่ายยังคงเป็นไบอยู่
สาวมากมายเมื่อคิดชอบใครจีบใคร จึงมักไม่บอกว่าตนเองเคยมีแฟนชาย หรือเคยเป็นไบมาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลสไบที่คบชายและหญิงในเวลาเดียวกัน เมื่อต้องการมีสัมพันธ์แบบใด ก็มักไม่บอกอีกฝ่ายถึงเรื่องราวส่วนตัว ต้องพูด "โสด" ไว้ก่อน หรือกระทั่ง "เลสแท้" เมื่อชอบพอคนใหม่ ต้องการมีความสัมพันธ์กับคนใหม่ก็มักบอกโสดเสมอ
เลสส่วนใหญ่มีแฟนกันแล้ว ไม่ว่าแท้ ทู หรือไบ แต่เมื่อจะไปคบคนใหม่ การบอกว่าโสดสนิทจึงเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายไม่บอกปัดการคบหา ฉะนั้น สภาวะคู่รักเลสมักเกิดการคบซ้อนบ่อยครั้งทีเดียว และมีอะไรกับผู้หญิงสองคนบ่อยเสียด้วย เพราะความเป็นผู้หญิงเหมือนกัน สัมผัสกันง่าย ถูกตัว หรือมีความรู้สึกด้านเพศกันง่ายนั่นเอง
มิ้งกับเปิ้ลเริ่มคบกันสักพัก กระทั่งมิ้งมั่นใจเลยโพสต์รูปคู่หวานแวววกับเธอ
"รักคนนี้ที่สุด"
"เช่นกันค่ะที่รัก" เปิ้ลโพสต์ตอบ
"อยากนอนข้างๆแบบนี้ไปตลอด" เปิ้ลโพสต์รูปเธอกับแฟนสาวอยู่บนเตียงใต้ผ่าห่มบ้าง
"ก็อยู่ด้วยกันตอนนี้ไง"
....
ทว่า ความที่มิ้งรักใครก็มักทุ่มเท และพร้อมมอบกายและใจให้ จึงไม่แปลกที่ทั้งคู่มีความสัมพันธ์กันอย่างลึกซึ้งภายในระยะเวลาอันสั้น แล้วการคบกันนั้น ผ่านไปช่วงเวลา 6 เดือน มิ้งรู้สึกว่า เปิ้ลบ่ายเบี่ยงต
ลอดที่จะตกลงปลงใจมาอยู่ด้วยกัน จะมาห้องเธอก็เพียงช่วงสั้นๆแค่มีอะไรกันแล้วกลับบ้านของเธอตามปกติ
ใกล้คืนปีใหม่ มิ้งใช้รูปสีดำสนิทเป็นรูปโปรไฟลท์แสดงถึงความเศร้า พร้อมกับพรรณาถึงความรักที่ไม่สวมหวัง
31 ธันวาคม 2556 : "เจ็บที่ไม่ยอมจำ" พร้อมด้วยตัวตุ๊กตาสีหน้าอารมณ์ร้องไห้ นั่นคือสเตตัสตอนบ่ายโมง เปิ้ลเผยว่ามิ้งปฏิเสธไม่ยอมมาเที่ยวคืนปีใหม่ด้วยกัน เมื่อมิ้งคาดคั้นว่า เปิ้ลมีแฟนใหม่หรือมั่งเธอก็บ่ายเบี่ยงและยืนกรานกระต่ายขาเดียวว่าไม่มีแน่นอน
14 มกราคม 2557 : "คืนดีกัน" มิ้งโพสต์รูกเธอกับเปิ้ลอีกครั้งเกี่ยวนิ้วก้อยกัน แต่แล้วมันเป็นเพียงความสุขชั่วคราว เมื่อท้ายสุดมิ้งทราบว่า เปิ้ลมีคนอื่นไปแล้ว
เธออาจไม่รู้ว่า แท้จริงเปิ้ลคบทีเดียวถึง 2 คน เธอขอภาวนาให้เป็นอย่างหลังคือเพิ่งมีคนอื่น ภายหลังจากคบเธอไป
แต่ความเจ็บอยู่ได้ไม่นาน เพราะโลกออนไลน์ทำให้เธอพบรักครั้งใหม่ ซึ่งหนนี้ระยะสั้นกว่าเดิม เมื่อมีปัญหากันมิ้งพร้อมตัดใจเลิกได้ทันที ไม่ว่าอีกฝ่ายสวยเพียงใด หรือลีลารักเด็ดดวงเพียงใดก็ตาม
บางครั้งมิ้งก็ไม่รู้มาก่อนด้วยซ้ำว่า คนที่เธอคบนั้นเป็นเลสไบ เพียงแต่เธอแอบเก็บความลับนั้นเอาไว้ เช่นเดียวกับเลสไบคนอื่นๆ นั่นคือคนต่อมาที่สวยราวกับนางแบบ ชื่อ "ยา" ความสัมพันธ์ผ่านไปแค่ช่วงเดือนเดียว เมื่อยา สามารถทำให้เปิ้ลมีอะไรด้วยได้ แล้วเธอก็ได้หายไปจากชีวิตเปิ้ลอย่างรวดเร็ว
มิ้งรู้สึกเจ็บปวด และระมัดระวังการคบหากันมากขึ้นกว่าเดิม เธอลองใจอีกฝ่ายพร้อมรับได้หากอีกคนเป็นเลสไบ แต่เธอไม่แคร์หากคนที่ต้องการคบ เลิกกับชายหรือทอมอะไรไปเรียบร้อยแล้ว
กระทั่งเธอได้พบกับ "อ้อน" พริตตี้สาวสวย แน่นอน ความงามของอ้อน ทำให้มีเลสมาติดพันมากมาย และเธอเคยคบเลสไบด้วย ถึงขนาดบินไปถึงขอนแก่นทุกเดือนทีเดียว เพราะติดใจในรสชาติที่ "นิด" มอบให้ทุกรูปแบบ แม้ว่าระยะหลังเริ่มห่างกันไปและอ้อนคบหาพริตตี้ด้วยกันก็ตาม
หนนี้เป็งมิ้งที่เป็นฝ่ายเข้าหาเลสอีกคนก่อน
"สวัสดีค่ะ เค้าชื่อ มิ้งนะคะ เลสค่ะ" มิ้งทักข้อความไปในอินบ็อก
"อ้อนค่ะ ยินดีได้รู้จักค่ะ เลสเหมือนกันค่ะ" เธอตอบ และชวนคุย เพราะทราบเข้าไปดูข้อมูลและรูปของมิ้ง ทำให้เธอทราบว่า อีกฝ่ายเป็นเลสเหมือนกัน
เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายตอบข้อความด้วยเธอจึงคุยต่อ "มิ้งเลสนะคะ ขอเป็นเพื่อนด้วยคนได้ไหมคะ"
"ได้สิคะ อ้อนก็เลสค่ะ"
"เตงสวยจุงเบย" อ้อนชวนคุย "เป็นนางแบบหรือคะ"
"ไม่ขนาดนั้นค่ะ แค่พริตตี้ รับงานอีเวนท์เฉยๆจ้ะ" อ้อน สาววัย 25 ตอบ "แล้วเตงทำงานอะไรคะ ถามได้ไหม"
มิ้งเองเข้าไปดูรูปอ้อนเช่นกัน ซึ่งมีแต่รูปกับผู้หญิงด้วยกัน เพื่อนบ้างแฟนบ้างและแต่ละคนสวยๆทั้งนั้น
"มิ้งทำงานเป็นกราฟฟิคดีไซน์คอมพิวเตอร์ แต่ก็รับงานถ่ายโฆษณาอะไรนิดหน่อยเอง"
"จ้า ก็อาชีพเดียวกันนั่นแหละค่ะ เตงก็สวยนะ" อ้อนบอก
"แต่ไม่สวยเท่าเตงหรอก" มิ้งยาหอมใส่
"บ้า เตงก็สวยนะ" อ้อนตอบ "แล้วเตงเลสไรคะ บอกได้ไหม"
"เค้าเลสทูจ้ะ" เตงล่ะคะ
"ทูเหมือนกันจ้ะ" อ้อนบอกอย่างตรงไปตรงมา "แล้วตัวมีแฟนหรือยังคะ ถ้ามีก็บอกนะคะ เค้าคุยได้หมด เป็นเพื่อนกันก็ได้"
"โสดสนิทจริงๆจ้ะ ไม่ได้โกหก ไม่เชื่อพิสูจน์ได้" มิ้งชวนคุยต่อ "แล้วเตงสวยๆแบบนี้แฟนเยอะแน่เลย"
"เค้าก็มีมาคุยบ้าง แต่ไม่ได้คบแบบขั้นแฟนนะ"
"ค่ะ" มิ้งตอบและ แอบยิ้มในใจเล็กๆ เพราะทำให้เธอมีความหวังขึ้นมาบ้าง
การคุยดำเนินไปราวสองสัปดาห์ จนสนิทกันมากขึ้น ทำให้มิ้งเริ่มกล้าถามเรื่องส่วนตัวของอ้อนบ้าง
"มิ้งถามได้ไหมว่า อ้อนเคยมีแฟนชายอะไรมาก่อนไหม"
"ไม่จ้ะ เค้าเลสแท้ คบผู้หญิงมาตั้งแต่แรกแล้ว เตงถามทำไมหรอ"
"ป่าวจ้ะ ไม่มีอะไร" มิ้งยิ้มมุมปากขณะส่งข้อความในเฟซไปด้วย "เค้าก็เลสแท้ ไม่เคยคบแฟนชายมาก่อนเหมือนกันจ้ะ"
ดูเหมือนทั้งคู่จะจูนกันติด ที่ชอบ อยากมีความรักและมีความสัมพันธ์กับเลสแท้เหมือนกัน
"วันเสาร์นี้ อ้อนว้างหรือเปล่าคะ จะชวนกินข้าว" มิ้งเริ่มเป็นฝ่ายรุก
"ถ้าตอนค่ำก็ได้นะ เค้าเสร็จงานราวสองทุ่ม ไปกินอะไรกันดี" อ้อนตอบ
"ทานแล้วหาเพลงฟังไหม"
"ได้เลยจ้ะ มิ้ง"
ครั้งแรกของทั้งคู่ ยังมิได้มีอะไรมากไปกว่าความเป็นเพื่อน อาจมีจับมือกันบ้างตอนฟังเพลง แต่เมื่อใจสื่อถึงใจ ทำให้มิ้งเริ่มรักอ้อนเต็มตัว และเริ่มพัฒนาการพูดคุยไปอีกขั้น ในวันรุ่งขึ้น
"เมื่อคืนเที่ยวสนุกมากเลย" มิ้งบอก "เตงสวยมากเมือคืน ถ้ายังไม่มีแฟนเค้าขอคบได้ไหม"
"ได้สิ ใครจะกล้าปฏิเสธคนสวยอย่างมิ้งล่ะ ที่รัก" อ้อนยินดีรับคำเชิญชวนของเพื่อนสาว
"งั้นขอหอมหน่อยนะ" มิ้งส่งข้อความไป พร้อมกับภาพหัวใจ อ้อนส่งหัวใจตอบ
"อยากหอมอย่างเดียวหรอ" อ้อนแกล้งคุยทีเล่นทีจริง
"หืม แล้วอยากให้ทำอะไรล่ะ" มิ้งรู้ว่าสิ่งที่อ้อนพูดนั้นหมายถึงอะไร
"ไม่บอก ไว้เจอกันอีกทีจะบอก" อ้อนตอบ "เค้าโพสต์รูปทีถ่ายกับตัวเองในเฟซเค้าได้ไหม้ สาวๆเตงจะว่าป่าว"
"ได้เลยจ้ะ ก็บอกแล้วว่าอ้อนไม่มีแฟนตอนนี้" เธอยืนยัน
มิ้งโพสต์รูปที่เธอกอดคอกับอ้อนตอนไปเที่ยวเมื่อวาน และใส่คำพูดข้างใต้
"อยากเป็นแฟนผู้หญิงคนนี้!"
อ้อนมาคอมเมนท์ต่อ "รับใบสมัครเรียบร้อยแล้วจ้ะ"
ความรู้สึกของมิ้งนั้นอยากกอดอ้อนเหลือเกิน แม้ว่ายังไม่ได้คิดถึงขั้นมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งก็ตาม
สัปดาห์ที่สองของการพูดคุย อ้อนขอเป็นฝ่ายขับรถไปรับมิ้งเที่ยว และทันทีเมื่อรับอีกฝ่ายขึ้นไปได้ไม่นาน อ้อนก็เริ่มรุกบ้าง
"ไหนบอกอยากหอม ไม่เห็นหอมเลย"
มิ้งไม่ลังเลยืนจมูกและปากไปหอมแก้มเธอ อ้อนไม่รอช้า ช้อนคางของมิ้งแล้วจูบทันที ซึ่งทำให้มิ้งไม่กล้าผละออกมา เพราะรสชาติจูบของอ้อนช่างหอมหวลและนุ่มนวล ละมุนละไม้จนเธอรู้สึกเคลิ้มอยู่ในอาการนั้นอยู่นาน
ความที่อ้อนเองไม่เคยคบชายมาก่อน และเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายเป็นเลสแท้ ทำให้เธอถวิลหาความสัมพันธ์ลึกซึ้งอย่างมาก อ้อนขับรถพามิ้งไปทานอาหารในโรงแรมแห่งหนึ่ง เมื่อกินข้าวและจิบเหล้ากันพอเรียกแรงกระตุ้นแล้ว อ้อนพามิ้งไปเปิดห้องบนโรงแรม ซึ่งอีกฝ่ายไม่ปฏิเสธแต่ประการใด
มิ้งรู้สึกตื่นเต้นและมีความสุขทุกครั้งเมื่อได้สัมผัสรักกับคนใหม่ๆ หนนี้เธอค่อนข้างติดใจในการรุกเร้าของอ้อนเหลือเกิน แล้วสิ่งที่่มิ้งไม่รู้มาก่อนเลยว่า คนที่สวยมากๆ บางทีมีความต้องการเรื่องเซ็กซ์สูงมากด้วยเช่นกัน
สำหรับทั้งคู่แล้วการมีเซ็กซ์กับเลสด้วยกัน ไม่ได้ให้ความสำคัญว่าอีกฝ่ายจะเคยมีอะไรกับชายมาก่อน เคยเป็นดี้หรือทอมมาก่อน รสชาติไม่ต่างกัน สิ่งสำคัญคือความรู้สึกรักผู้หญิงด้วยกัน อ้อนเองก็เคยนอนกับเลสไบเพราะความสุขที่นิดยื่นมอบให้
"ถ้ามิ้งเคยมีอะไรกับชายมาก่อน ไมใช่เลสแท้ เตงจะโกรธไหม" มิ้งลองใจถามภายหลังการร่วมรักครั้งแรกผ่านพ้นไป
"ไม่สำคัญหรอก" อ้อนยิ้ม "โลกนี้จะมีเลสแท้สักกี่คนกัน ไม่ว่าเตงเคยมีแฟนชายหรือไม่ เค้าไม่สนใจหรอกนะเค้าสนที่ปัจจุบันเตงมีอ้อนคนเดียวพอ"
,มิ้งยิ้มอย่างมีความสุขและจูบอ้อนเหมือนเป็นคำขอบคุณ บทเพลงรักหนใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น มันเป็นคืนที่มิ้งได้รับการตอบสนองด้านอารมณ์อย่างดูดดื่ม ทั้งสองผลัดกันรุกเร้า แต่เป็นฝ่ายอ้อนที่ปลุกความต้องการให้มิ้งเกิดขึ้นตลอดทั้งคืน และอิ่มเอิบกับความรักกันจนถึงรุ่งเช้า...
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้นะคะ